“หนุ่มคลั่ง” ซิ่งเก๋งชนรถตร.ทางหลวง พังยับ สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน

"หนุ่มคลั่ง" ซิ่งเก๋งชนรถตร.ทางหลวง พังยับ สุดท้ายไม่รอด โดนรวบทันควัน

กล้องหน้ารถตำรวจทางหลวงจับภาพเหตุการณ์ขณะที่นายพงค์พันธ์ อายุ 38 ปี ขับรถเก๋งพุ่งชนรถตำรวจทางหลวง บนถนนทางหลวงสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ตำบลนาขา อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบรถเก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า แอคคอต สีเทา ขับแซงรถของเจ้าหน้าที่ไป สังเกตเห็นว่ารถคันดังกล่าวมีลักษณะผิดปกติน่าสงสัย และไม่ติดป้ายทะเบียนด้านหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุด ก่อนจะแสดงตัวขอตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบชาย 4 คน นั่งโดยสารอยู่ในรถคันดังกล่าว ตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนจะขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชนของบุคคลภายในรถ ซึ่งในระบบฐานข้อมูลประวัติอาชญากร ปรากฏว่าบุคคลที่โดยสารมา เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดจำนวนหลายคดี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งขณะที่ขอตรวจสอบบัตรประชาชนอยู่นั้น นายพงค์พันธ์ ผู้ต้องหารายนี้ ไม่ยินยอมให้บัตรประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้พกบัตรมา พร้อมอ้างว่า จำหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนไม่ได้ ตำรวจทางหลวง จึงขอเชิญตัวนายพงค์พันธ์ ไปตรวจสอบประวัติบุคคลที่สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร แต่เมื่อนายพงค์พันธ์ เห็นว่าเจ้าหน้าที่จะเชิญตัวไปตรวจสอบ จึงรีบวิ่งขึ้นรถคันดังกล่าว ก่อนขับรถหนีทันที เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไป และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ช่วยสกัดจับรถคันที่นายพงค์พันธ์ ขับหลบหนีด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ขับรถตามมาทัน ขณะนั้นเองนายพงค์พันธ์ ได้ชะลอรถ ก่อนถอยหลังพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่ และพยายามกลับรถ เพื่อจะวิ่งพุ่งชนรถของเจ้าหน้าที่อีกหลายครั้ง ทำให้รถของเจ้าหน้าที่ตกลงข้างทาง ได้รับความเสียหายไม่สามารถติดตามต่อไปได้ ก่อนที่รถผู้ต้องหาจะกลับรถ และขับสวนเลนมา ขับชนรถของเจ้าหน้าที่ให้เสียหายเพื่อหลบหนี แต่ครั้งนี้เมื่อรถของผู้ต้องหาชนกับรถของเจ้าหน้าที่แล้ว ได้เกิดเสียหลักพุ่งตกลงข้างทางไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าควบคุมตัวนายพงค์พันธ์ เอาไว้ได้

 

 

 

สอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรของนายพงค์พันธ์ พบว่าเคยต้องโทษคดีฆ่าผู้อื่นและเคยถูกจำคุกมาก่อน ซึ่งปัจจุบันยังมีหมายจับคดี “ยาเสพติด และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ” ตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงอีกด้วย

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี “ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติตามหน้าที่ เป็นผู้ขับขี่รถเสพยาอี ทำให้เสียทรัพย์  ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ก่อนนำตัวส่ง สภ.บ้านในหูต จังหวัดชุมพร เพื่อดำเนินคดีต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น