“ซูเปอร์โพล” เปิดผลสำรวจ ปชช.ส่วนใหญ่ต้องการให้เร่งกระตุ้นศก. หนุนแจกเงินดิจิทัล Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
31 มีนาคม 2567 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง “ความต้องการของประชาชน” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,382 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 25 – 30 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยเมื่อถามถึงความต้องการของประชาชน พบ 5 อันดับแรก ได้แก่
-ร้อยละ 67.4 ประชาชนต้องการให้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัล แก้ไขปัญหาปากท้อง เสริมสภาพคล่องธุรกิจ
-ร้อยละ 63.9 ประชาชนต้องการให้เร่งแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ มิจฉาชีพออนไลน์ โจรไซเบอร์ดูดเงินของประชาชน
-ร้อยละ 61.8 แก้ไขปัญหาหนี้ ทั้งในและนอกระบบ
ร้อยละ 60.7 แก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนทุกมิติ เช่น ยาเสพติด ยกพวกตีกัน ค้าประเวณี ละเลยคุณธรรมจริยธรรม
ร้อยละ 60.5แก้ไขปัญหายาเสพติด
เมื่อสอบถามถึงการสนับสนุนของประชาชนต่อกลุ่มการเมืองฝ่ายการเมือง
-ร้อยละ 46.2 ระบุว่า กลางๆ ไม่ยึดติด ใครทำดีมีประโยชน์ ไม่ฝืนความรู้สึก สนับสนุนฝ่ายนั้น
-ร้อยละ 30.8 สนับสนุน กลุ่มการเมืองขั้วรัฐบาล อนุรักษ์นิยม
-ร้อยละ 23.0 สนับสนุน กลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มเสรีนิยม
เมื่อแบ่งออกตามเพศ พบความแตกต่าง คือ
-ในกลุ่มผู้สนับสนุน กลุ่มการเมืองขั้วรัฐบาล อนุรักษ์นิยม ในกุล่มผู้ชายมีอยู่ร้อยละ 33.2 ผู้หญิงร้อยละ 28.7
-ในกลุ่มผู้สนับสนุน กลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มเสรีนิยม ในกลุ่มผู้ชายมีอยู่ร้อยละ 26.0 หญิง ร้อยละ 20.6
-ในกลุ่มกลาง ๆ ไม่ยึดติด ใครทำดีมีประโยชน์ ไม่ฝืนความรู้สึก สนับสนุนฝ่ายนั้น ในกลุ่มผู้ชายมีอยู่ร้อยละ 40.8 ซึ่งน้อยกว่าหญิงที่มีอยู่ร้อยละ 50.7
เมื่อแบ่งออกตามช่วงอายุ พบความแตกต่างที่น่าพิจารณาเช่นกัน คือ ในกลุ่มผู้สนับสนุน กลุ่มการเมืองฝ่ายค้าน กลุ่มเสรีนิยม คนอายุต่ำกว่า 20 ปี มีอยู่ร้อยละ 44.4 ซึ่งมากกว่าทุกกลุ่มช่วงอายุ แต่ในกลุ่มสนับสนุน กลุ่มการเมืองขั้วรัฐบาล อนุรักษ์นิยม พบว่ากระจายกันออกไปในหลายกลุ่มช่วงอายุ เช่น ต่ำกว่า 20 ปีมีอยู่ร้อยละ 36.1 อายุระหว่าง 20-29 ปีมีอยู่ร้อยละ 32.1 อายุระหว่าง 30 – 39 ปี มีอยู่ร้อยละ 35.6 อายุระหว่าง 40 – 49 ปี มีอยู่ร้อยละ 25.7 อายุระหว่าง 50 – 59 ปีมีอยู่ร้อยละ 27.4 และอายุ 60 ปีขึ้นไปมีอยู่ร้อยละ 35.3
ที่น่าสนใจคือ ประชาชนหมู่มากในหลายช่วงอายุยังอยู่ในกลุ่มกลางๆ ไม่ยึดติด ใครทำดีมีประโยชน์ ไม่ฝืนความรู้สึก สนับสนุนฝ่ายนั้น ที่พบมากที่สุดในกลุ่มอายุ 40 – 49 ปี คือ ร้อยละ 54.1 และกลุ่มอายุ 50 – 59 ปี มีอยู่ร้อยละ 53.6
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น