"พท."อดีตแกนนำเสื้อแดงการันตี "นายกฯ" มีผลงานแม้เพิ่งเข้ามาบริหารยังไม่ได้ใช้งบประมาณเสียด้วยซ้ำไป "ก้าวไกล" ไม่ขัด "รัฐบาล" เพิ่มเวลาชี้แจง แต่ไม่มีสิทธิมาลดเวลาฝ่ายค้าน
ข่าวที่น่าสนใจ
“ก้าวไกล” ไม่ขัด “รัฐบาล” เพิ่มเวลาชี้แจง แต่ไม่มีสิทธิมาลดเวลาฝ่ายค้าน
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่าข้อตกลงที่ฝ่ายค้านได้ 22 ชั่วโมง ครม. 6 ชั่วโมงนั้น เป็นข้อตกลงที่ตกลงกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ครม. และประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยมีเอกสารอย่างเป็นทางการ ข้อเสนอที่ให้เวลา ครม. 6 ชั่วโมงนั้น เป็นข้อเสนอที่ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอมาเอง ตนในฐานะตัวแทนฝ่ายค้านในวันนั้น ตอบรับโดยไม่ได้ต่อรองใด ๆ เลย
ตนยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง หาก ครม. จะใช้เวลาเกิน 6 ชั่วโมง เพราะการอภิปรายของฝ่ายค้าน เราก็อยากได้คำตอบที่ชัดเจนเช่นกัน และ สส. ฝ่ายค้าน ก็พร้อมปิดประชุมดึกกว่าที่กำหนด เพื่อให้ ครม. ได้ชี้แจงอย่างเต็มที่ แต่การที่พรรคร่วมรัฐบาลที่เสนอกรอบเวลาของ ครม. เพียง 6 ชั่วโมงมาเอง พอมารู้ตัวทีหลังว่าเวลาอาจจะไม่พอ อยากจะเพิ่มเวลาฝ่ายตนเอง ก็ไม่มีสิทธิมาลดเวลาฝ่ายค้าน ที่วางแผนภายใต้กรอบ 22 ชั่วโมงมาตลอด โดยเฉพาะมาเสนอก่อนถึงวันอภิปรายเพียง 2 วัน และจะนัดประชุมเพื่อทบทวนสัดส่วนเวลาในเช้าวันพุธที่ 3 เมษายนเพียง 1 ชั่วโมงก่อนเปิดประชุม
“ไม่ใช่หน้าที่ฝ่ายค้านที่จะต้องมารับผิดชอบการวางแผนที่ไม่รอบคอบของฝ่ายรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะต้องไปขอต่อรอง เพราะนี่เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลจะต้องมาขอจากฝ่ายค้านเอง ว่าจะไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้” ประธานวิปฝ่ายค้านระบุ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าท้ายที่สุด นี่อาจเป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ แต่ปฏิกิริยาของพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่พอใจการขอนับองค์ประชุมของฝ่ายค้านในสัปดาห์ที่แล้ว ก็อดคิดไม่ได้ว่าการขอลดการอภิปรายของฝ่ายค้านโดยไม่จำเป็นแบบฉุกละหุกครั้งนี้ อาจเป็นแค่ความต้องการจะ “แก้แค้น” เท่านั้น และหากจะเอาวาระที่เป็นเวทีใหญ่ในการตรวจสอบรัฐบาลมากระทำแบบนี้ ก็คงบ่งบอกได้ถึงระดับวุฒิภาวะของคนในรัฐบาล และการไม่ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุลในระบบรัฐสภาเลย
ด้าน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า ที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลต่างตบเท้าออกมาพูดว่าไม่กลัวการอภิปราย 152 เย้ยฝ่ายค้านว่าอย่าอภิปรายซ้ำซากบ้าง อย่าวนเวียนใช้วาทกรรมบ้าง ถ้ารัฐบาลไม่กลัวจริงตามที่ปากพูด ก็ควรนั่งนิ่งๆ ใจร่มๆ เปิดดูคลิปเก่าๆ ที่พรรคตัวเองเคยอภิปรายไปพลางๆ เผื่อจะละอายใจบ้าง
บิ๊ก “พท.” อดีตแกนนำเสื้อแดง การันตี “นายกฯ” มีผลงานแม้เพิ่งเข้ามาบริหารยังไม่ได้ใช้งบประมาณเสียด้วยซ้ำไป
นายก่อแก้ว พิกุลทอง อดีตแกนนำ นปช.และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เวลาผ่านมากว่า 7 เดือนของรัฐบาล ภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แม้ผลงานอาจจะถูกมองว่ายังช้า แต่ก็เป็นผลจากการบริหารงานที่ยังไม่ได้ใช้เงินงบประมาณโดยตรง การทำโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย และความร่วมมือจากบางหน่วยงาน สภาพการเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค จึงทำให้ไม่สามารถขับเคลื่อนกระทรวงเศรษฐกิจหลายกระทรวงได้โดยตรง
“ผมเชื่อว่า หลัง พ.ร.บ.งบประมาณประกาศใช้ มีการตกผลึกในข้อกฎหมายเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตและแนวทางประกาศใช้ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะมากขึ้น จะมีการตัดสินใจลงทุน สร้างงานมากขึ้น กลไกทางเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนไปอย่างไหลลื่นกว่าเดิม ทุกอย่างก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” นายก่อแก้ว ระบุ
นายก่อแก้ว กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ต้องชื่นชม นายเศรษฐา ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ทุ่มเทอย่างที่เคยได้ประกาศไว้ว่า จะทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และยังเดินทางพบปะ ผู้นำมิตรประเทศ เจรจาค้าขาย กระชับความสัมพันธ์ พบปะกับนักธุรกิจระดับโลก เชิญมาลงทุนในไทย และยังลงพื้นที่หาประชาชนรับฟังปัญหา ตรวจเยี่ยมสถานที่ราชการโดยไม่แจ้งล่วงหน้าตรวจสอบการทำงาน จับเข่าคุยผู้บริหารองค์กรต่างๆ เพื่อเจาะลึกปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาของประเทศ
นายก่อแก้ว กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ยังพร้อมตอบคำถามทั้ง สส., สว. หรือผู้สื่อข่าว ในทุกวาระ อย่างตรงไปตรงมา ฉลาดเฉลียว มีหลักการและเหตุผล ด้วยบุคลิกสุภาพอ่อนน้อม มีจิตใจงดงาม ดูแล้วนึกถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯหญิงในดวงใจของคนไทย
“ผมว่าเป็นโชคดีที่ประเทศไทย มีนายกฯที่มาจากภาคธุรกิจ ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน” นายก่อแก้ว ระบุ
นายก่อแก้ว กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ส่วนนักวิพากษ์วิจารณ์การเมืองที่ชอบมโน ว่านายเศรษฐาจะถูกเปลี่ยนตัว ถูกปลด ซึ่งล้วนเป็นการปล่อยข่าวให้ตกใจ สร้างความไม่เชื่อมั่นในกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศนั้น ตนขอให้หยุดมโน ถ้าว่างมาก กรุณาไปหางานทำ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคมจะดีกว่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง