งัดผลเลือกตั้งสนามเล็ก “นายกอบจ.เลย” ดับโอหังกระแสส้มฟีเวอร์ บทพิสูจน์ “ก้าวไกล” ยิ่งยุบยิ่งฝ่อ

เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อยุบ “ก้าวไกล” เปลี่ยนพรรคใหม่จะชนะเลือกตั้งครั้งหน้าแลนด์สไลด์

วันนี้ผลการเลือกตั้งซ่อมไม่ว่าจะที่ไหนก็แล้วแต่ที่มีการเลือกตั้งซ่อม ตัวแทนของคณะก้าวหน้าหรือพรรคก้าวไกลไม่ได้ชนะเลย แม้แต่เขตเดียว รวมถึงการเลือกตั้งล่าสุด นายก อบจ.ซึ่งถือว่าเป็นสนามท้องถิ่นสนามแรกที่เป็นสนามระดับจังหวัด พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ชนะ ฉะนั้นที่บอกว่าการยุบพรรคก้าวไกล แล้วไปอยู่พรรคก้าวใหม่ แล้วจะชนะในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่จริงครับ ผมฝากถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนทั้งประเทศ อย่าหลงเชื่อว่า พรรคก้าวไกลแล้วจะแลนด์สไลด์ จะมีคนนิยมชมชอบมากขึ้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า การเลือกตั้งที่จังหวัดเลยเป็นผลที่ชัดเจน และตอบทางการเมืองได้ว่า ไม่ได้เป็นแบบนั้น

นายสามารถ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ตนจะสื่อสารไปยัง สส.พรรคก้าวไกลว่าวันที่ 3-4 เมษายนนี้จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนก็คาดหวังว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ลงดาบในวันนั้น เพราะตนอยากให้พรรคก้าวไกลได้อภิปรายรัฐบาลอย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้โดนถกเรื่องเวลาอีกแล้วรัฐบาลจะดึงเวลากลับ หมายความว่า รัฐบาลจะพูดบ้าง ฝ่ายค้านก็จะเหลือเวลานิดเดียว ตนบอกคุณผิดพลาดตั้งแต่วันแรก เพราะญัตติไม่ไว้วางใจ 151 สามารถใช้ได้ 152 ก็ใช้ได้ แทนที่พรรคก้าวไกลจะยื่นทั้ง 2 ญัตติ จะได้อภิปรายได้หลายวัน แต่พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ทำ

นี่คือสิ่งที่ทำให้เห็นว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้จัดการเรื่องเวลา เพราะ 1 ปี มี 2 สมัยการประชุมให้ฝ่ายค้านใช้ญัตติ 151 และ 152 ได้ แต่พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ทำ ผมว่าน่าจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่ไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะปกติการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ฝ่ายค้านจะพยายามหาช่องทาง หาทุกเวลาในการที่จะล้มรัฐบาล เพื่อที่จะให้ตัวเองกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ผมเห็นในยุคพรรคก้าวไกลที่ผู้นำฝ่ายค้านไม่เคยทำแบบนั้น ผมก็เลยบอกว่า การใช้กลไกของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลทำไม่เป็น ผมไม่รู้ว่าพรรคก้าวไกลรี่ตากับพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้ประชาชนดูออก การที่จะใช้คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาแก้เกมพรรคก้าวไกลนั้น ก็ไม่ใช่ทางเลือกเช่นกัน

นายสามารถ ยังกล่าวต่อถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า อยากจะพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ล็อคเป้าอภิปรายรัฐบาลอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนได้เห็นประโยชน์ ถ้าสนามนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถฟื้นคืนได้นั้น ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เพราะตอนนี้พรรคอื่นเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหมด ตนขอฝากพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องเงินดิจิทัลวอเล็ต 10,000 บาท , เรื่องยาบ้า 5 เม็ด เรื่องความขัดแย้งระหว่างบิ๊กตำรวจระดับยศพลตำรวจเอกทะเลาะกัน ร่วมถึงเรื่องการที่บอกว่า มีการจ่ายส่วนให้กับ “บิ๊กต” เรื่องนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีหนีความรับผิดชอบไม่ได้ ก็ขอฝากพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะที่เป็นเคยเป็นขุนพลฝีปากกล้า อันนี้จะสะท้อนให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะเกิดหรือไม่