"อดอาหารประท้วง" ไม่อดน้ำ บุ้ง ทะลุวัง ไม่ตายเร็ว อยู่ทุบสถิติได้นานหลายเดือน หมอให้ข้อมูล เอาจริงต้องเขียน living will สั่งห้ามช่วยชีวิตไว้ล่วงหน้าเท่านั้น
ข่าวที่น่าสนใจ
“อดอาหารประท้วง” อึดทุบสถิติ?
เพจ ทะลุวัง – ThaluWang โพสต์ บันทึกเยี่ยมทะลุวัง ระบุ วันนี้เป็นวันที่ 65 ที่บุ้งอดอาหาร ซึ่งมากกว่าจำนวนวันที่อดอาหารในครั้งก่อนแล้ว แต่ร่างกายบุ้งผอมลงมากกว่าครั้งก่อน เนื่องจากในช่วงแรกบุ้งอดน้ำร่วมด้วย ทุกวันจันทร์บุ้งจะได้ชั่งน้ำหนัก ซึ่งน้ำหนักวันนี้ลดลงเหลือ 62 แล้ว จากก่อนเข้าเรือนจำน้ำหนัก 84 และความดันยังคงต่ำเช่นเดิม ไม่ว่าพยาบาลจะวัดกี่รอบ ก็ยังความดันต่ำอยู่ แต่หมอไม่ได้ให้บุ้งกินยาถ่ายแล้ว เพราะบุ้งปวดท้องมากและแทบไม่มีอะไรขับถ่ายออกมาเลย
บุ้งแจ้งว่า เมื่อวันอาทิตย์ บุ้งนอนทั้งวันเพราะเหนื่อยมาก ไม่มีแรงจะทำอะไรเลย แม้แต่จะพูดก็ไม่มีแรง รู้สึกตื่นมาก็เหนื่อยขึ้นทุกวันอยู่แล้ว แต่บางวันจะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ
บุ้งยังคงมีกำลังใจดีถึงแม้จะอดหารหารมาร่วม 2 เดือน แต่ก็ยังคงหนักแน่น ยืนยันว่า ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จะสู้ต่อไป และอยู่เคียงข้างตะวันกับแฟร้งค์อยู่เสมอ
อดอาหารไม่ตายเร็ว?
ศ.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ถึงกรณี ข่าวนักศึกษา “อดอาหารประท้วง” เพื่อสร้างกระแสให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็เกิดขึ้นในสังคมไทยหลายครั้ง และในโลกก็มีตัวอย่างมาไม่น้อย นัยว่าเป็นวิธีอหิงสา ไม่ได้เบียดเบียนใคร และดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยมีใครทำสำเร็จจนตายเท่าไรนัก
คนเราอดอาหารได้นาน ๆ ถ้าอดอาหารเพียงอย่างเดียว ยังกินน้ำบ้าง ก็จะอยู่ได้นานหลายเดือน แต่จะผอมแห้งลงเรื่อย ๆ แต่ไม่ตายเร็ว เพราะว่าคนเรามีอาหารสะสมอยู่ในรูปไขมัน และกล้ามเนื้อ อาจเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก ในวันที่พลังงานหมดเกลี้ยง จึงจะเสียชีวิตได้
อดทั้งอาหารและน้ำ?
หากคนเราอดทั้งอาหารและน้ำ ก็จะยังมีชีวิตอยู่ได้ระหว่าง 12 – 55 วัน ไตจะทำงานเต็มที่เก็บน้ำไว้ ผลิตปัสสาวะน้อยลง จนหยุดปัสสาวะในราวสัปดาห์ที่ 2 หลังอดน้ำ แต่จิตใจที่ร้อนรน ความร้อนของบรรยากาศ และกิจกรรมอาจทำให้ขาดน้ำเร็วขึ้น เมื่อขาดน้ำก็อาจจะหมดสติไปเสียก่อน แต่จะยังไม่ตาย จนกระทั่งน้ำแห้งถึงจุดวิกฤติ ร่างกายทำงานต่อไม่ได้ เสียชีวิตไปทั้งที่อาหารสะสมไว้ยังไม่หมดไปจากร่าง
living will ?
ในความเป็นจริง คนที่ตั้งใจอดอาหารและน้ำประท้วง ก็จะไม่มีทางตายได้ เพราะทันทีที่หมดสติ ก็ไม่สามารถห้ามคนรอบตัวไม่ให้ช่วยชีวิต เมื่อเจ้าของชีวิตสลบไป พวกเขาก็จะเข้าแทรกแซงธรรมชาติ ไม่ยอมให้ผู้ประท้วงตายง่าย ๆ เพียงให้น้ำเกลือเข้าไปทางปาก หรือทางเส้นเลือด อีกไม่นานก็ฟื้น
ดังนั้น ผู้ประท้วงที่เอาจริงและมีความรู้ ก็จะต้องเขียนสั่งห้ามช่วยชีวิตไว้ล่วงหน้า นั่นคือการทำเอกสาร living will หรือเอกสารแสดงเจตนาไม่รับบริการทางการแพทย์ที่จะยืดชีวิต กฎหมายไทยได้รับรองสิทธินี้ไว้ใน มาตรา 12 พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ พ.ศ. 2550 แพทย์ผู้เคารพอัตตาณัติของเจ้าของชีวิต ก็จะปฏิบัติตามที่เจ้าของชีวิตสั่งไว้ อันเป็นหลักการของจริยธรรมทางการแพทย์ที่สำคัญ แพทย์สามารถปฏิเสธคำร้องขอให้ช่วยยื้อชีวิตของคนรอบตัวผู้ป่วยได้ ผู้ประท้วงจึงจะมีโอกาสบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้
อย่างไรก็ดี หากแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง ไม่ปฏิบัติตาม living will หรือเอกสารแสดงเจตนาไม่รับบริการทางการแพทย์ที่จะยืดชีวิต คือ กระทำการแทรกแซงธรรมชาติ ทั้งที่เจ้าของชีวิตห้ามไว้แล้ว ในทางกฎหมายก็ไม่ผิด แต่ก็ถือว่าผิดจริยธรรมที่ไม่ปฏิบัติตามความประสงค์ของเจ้าของชีวิต หมอบางท่านก็อาจจะอ้างว่า นี่ไม่ใช่ระยะท้ายของชีวิต จึงไม่ปฏิบัติตาม
การเลือกฆ่าตัวตายด้วยวิธีงดน้ำและอาหาร เป็นสิ่งที่บุคคลสามารถเลือกทำได้ แม้จะเป็นความผิดทั้งในทางศาสนา และทางกฎหมาย แต่ก็ไม่ต้องรับโทษเพราะตายไปแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการุณยฆาต เพราะเบียดเบียนตนเอง จึงไม่ การุณย์ และไม่ได้ขอให้หมอช่วยทำ ฆาตกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง