สำนักงานอัยการสูงสุดของรัสเซียได้ส่งคำขออย่างเป็นทางการ ไปยัง 4 ประเทศตะวันตกได้แก่สหรัฐ เยอรมนี ฝรั่งเศส และไซปรัส เพื่อเรียกร้องให้ประเทศเหล่านี้สอบสวนการโจมตีของผู้ก่อการร้ายต่อรัสเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีความหวังว่า ทางการใน 4 ประเทศนี้ จะปฏิบัติตามคำร้องขอของรัสเซีย และปฏิบัติตามพันธกรณีที่ได้รับมอบหมาย ภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ อนุสัญญาระหว่างประเทศดังกล่าว มีทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย 1999 และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปราบปรามการวางระเบิดของผู้ก่อการร้าย 1997 ซึ่งสำหรับการดำเนินการนี้ ก็เป็นไปตามข้อเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่หลายคนของสภาล่าง เพื่อให้มีการสอบสวนถึงความเป็นไปได้ที่บุคคลและองค์กรต่างประเทศ จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีของผู้ก่อการร้าย รวมถึงการก่อวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมทั้ง 2 ท่อด้วย
สำหรับในส่วนท้ายของการเรียกร้องนี้นั้น ได้มีการแสดงหลักฐานที่ชี้เป้าไปที่บุคคลและองค์กรจำนวนหนึ่ง ที่เชื่อว่ามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ, การจัดหาเงินทุน, และปกปิดการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในรัสเซีย ซึ่งก็ได้มีการอ้างว่า สหรัฐและพันธมิตรได้ดำเนินการโจมตีต่อรัสเซีย แล้วโบ้ยไประบุว่า เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย เช่นในแบบกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอสเป็นต้น
ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องของสำนักงานอัยการสูงสุดเกิดขึ้น หลังจากที่มีเหตุกราดยิงเกิดขึ้นที่โครคัส ซิตี้ ฮอลล์ ที่กรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซีย ซึ่งก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 140 ราย เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว และมีผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมไปหลายคน ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงรัสเซียสันนิษฐานว่า สหรัฐ สหราชอาณาจักร และยูเครน อาจมีส่วนรวมในเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเหตุวินาศกรรมท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 และ 2 เมื่อเดือนกันยายนปี 2022 ซึ่งทางรัสเซียก็อ้างว่า มีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงสหรัฐและสหราชอาณาจักรว่า มีเบื้องหลังในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งทางตะวันตกก็ได้เลี่ยงที่จะสอบสวนหาผู้กระทำผิดให้ได้อย่างแท้จริง