“สมศักดิ์-พวงเพ็ชร” โบ้ยดูแล “สภาผู้บริโภค” สุดโป๊ะสส.ก้าวไกลเคยติงหนักใช้งบฯ
ติดตามต่อเนื่องกับประเด็นที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ จากการที่ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้นำเสนอความเห็นผ่าน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อประกอบความเห็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มีความจำเป็นต้องให้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ทบทวนวิธีการทำงาน หลังจากมีการยื่นของบประมาณกลางปี 2568 จำนวน 360 ล้านบาท
และที่ประชุมครม.มอบหมายให้ สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอของสภาพัฒน์ ไปพิจารณาประกอบการจัดสรรงบประมาณ ให้กับสภาองค์กรของผู้บริโภค เพื่อทำให้การใช้งบประมาณดังกล่าวเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยข้อเสนอของสภาพัฒน์ ซึ่งรายงานความเห็นประกอบการพิจารณา การยื่นขอรับการจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นรายปี ของ สภาองค์กรของผู้บริโภค ประกอบด้วยรายละเอียดดังนี้
1. สภาองค์กรของผู้บริโภค ควรพิจารณากำหนดและเพิ่มตัวชี้วัดที่สามารถสะท้อน ผลลัพธ์ไปยังประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
2. สภาองค์กรของผู้บริโภค ควรพิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมของรูปแบบกิจกรรม ในแผนงานพัฒนานโยบายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมในลักษณะการประชุมสัมมนาหรือการประชุม หารือระยะสั้นเพียง 1-2 ครั้ง ในแผนงาน เพราะงบฯส่วนใหญ่เป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก และค่าเดินทาง ซึ่งอาจไม่สามารถนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายในการสร้างความร่วมมือด้านนโยบายที่กำหนดไว้
3.เนื่องด้วยงบประมาณกว่า 40% เป็นการสนับสนุนการดำเนินงานในแผนงานสนับสนุนสมาชิก หน่วยงานประจำจังหวัด หน่วยงานเขตในพื้นที่ โดยเป็นการเพิ่มจำนวนสมาชิกและหน่วยงานในพื้นที่
ดังนั้น สภาองค์กรของผู้บริโภค ควรพิจารณาประสานใช้กลไกการดำเนินงานของหน่วยงานอื่นที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาทิ เครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่มีเครือข่ายหลัก กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 500 เครือข่าย
และหากจำเป็นต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานประจำจังหวัดเพิ่ม สภาองค์กรของผู้บริโภคควรต้องคำนึงถึงความซ้ำซ้อนกับกลไกอื่นที่มีการดำเนินงานในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ด้วย หรืออาจพิจารณาจัดตั้งในลักษณะของเขตพื้นที่ที่เป็นการรวมกลุ่มจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคมากที่สุด