ก.ตร. ย้ำปม “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน เอาผิดทั้งอาญาและวินัย

ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ ยันใช้มาตรฐานเดียวกันในการดำเนินการกับ “พล.ต.อ. ต่อศักดิ์” ไม่ต่างจาก “บิ๊กโจ๊ก” คือเอาผิดทั้งคดีอาญาและสอบสวนทางวินัย

วันนี้ ( 4 เม.ย.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ความเห็นกรณีกรณีพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ.ตร. จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินเว็บพนันฯ เหมือนกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่นั้นว่า เวลานี้มีการเปิดประเด็น ที่จะร้องเรียนเอาผิดทางวินัยกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยทนายตั้ม ได้นำข้อเท็จจริงที่ร้องเป็นคดีอาญา มาร้องเรียนต่อคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ (ก.ร.ตร.) ซึ่งมีจำนวน 9 คน โดย 3 ใน 9 เป็นตำรวจที่ผ่านการคัดเลือกตามระบบ คือ พล.ต.ท. สรศักดิ์ เย็นเปรม ประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ส่วนอีก 2 ท่าน คือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน

 

 

บิ๊กโจ๊ก

 

และพล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร เป็นคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียน นอกจากนั้น ยังมี ตัวแทนผู้ตรวจการแผ่นดิน เลขาฯสภาทนายความ อย่างละ 1 ท่าน และผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 2 ท่าน และกฎหมายยังกำหนดให้มี ผู้พิพากษาระดับศาลอุทธรณ์ และคณะกรรมการอัยการชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วม ในคณะกรรมการชุดนี้ด้วย อย่างละ 1 ท่าน แต่ยังขาดอยู่ อย่างไรก็ตาม ทางกฎหมายระบุว่าคณะกรรมการเพียง 7 คนก็สามารถดำเนินการได้

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กรณีที่ทนายตั้มได้นำเรื่องไปร้องเรียน และเปิดประเด็นกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดี กรณีให้นายตำรวจคนสนิท ไปเซ็นชื่อรับเข็มวปอ.ที่สน.สุทธิสาร ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ ก็จะดำเนินการเรื่องทางวินัย หากไม่พบมูลความผิดก็สั่งยุติตกไป

 

 

 

หากมีมูลก็สามารถไต่สวนพิจารณาหลักฐานต่างๆ หากพบการกระทำผิด ก็ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาตำรวจลงโทษทันที หากบทโทษร้ายแรง เน้นย้ำให้ใช้คำว่าไต่สวน โดยจะฟังทั้งสองฝ่ายและให้ความเป็นธรรม

 

และขอย้ำว่าการร้องเรียนเรื่องของตำรวจการมี ก.ร.ตร. ถือเป็นเรื่องสำคัญในการสนับสนุนการทำงาน ไม่ว่าตำรวจจะทำผิด ก็จะมีการพิจารณาลงโทษโดยองค์กรกลาง มีอำนาจกว้างขวาง โดยในส่วนของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ก็จะถูกโทษดำเนินคดีอาญาและถูกกล่าวหาในทางวินัย ตามกรอบระยะเวลาเดียวกัน ประมาณ 120 วัน หากพบมูลการกระทำผิด ก็จะต่อเวลาขยายได้อีก 270 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ส่งมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือชาวเมียนมา พร้อมเยียวยา "แรงงานไทย" ที่ได้รับผลกระทบ เหตุแผ่นดินไหว
GULF ได้รับการเพิ่มอันดับเครดิตจาก TRIS เป็น "AA-" สะท้อนความแข็งแกร่งหลังควบรวม INTUCH
มุ่งพัฒนาเจ้าของธุรกิจ "นภินทร" เปิดหลักสูตรสุดปัง The Influencer Journey: TiJ#2 ลุยเปลี่ยน CEO ทั่วไทย แจ้งเกิดเป็น Influencer ตลาดออนไลน์
ชาวจีนที่ยูนนานบริจาค'อุปกรณ์การแพทย์'ช่วยแผ่นดินไหวเมียนมา
ยอดดับแผ่นดินไหวเมียนมาเพิ่มเป็น 2,886 ราย
กู้ภัยพบผู้รอดชีวิตใต้ซากตึก 100 ชม.หลังแผ่นดินไหวเมียนมา
หญิง 63 ปีรอดชีวิตหลังติดใต้ซากแผ่นดินไหว 91 ชม.ในเมียนมา
"ท็อปนิวส์ ร่วมบริษัท อะราวด์เดอะเวิลด์" มอบเงินกว่า 8.5 ล้านบาท ซื้อรถรับบริจาคโลหิต สภากาชาดไทย
‘ชัชชาติ’ ขออย่าใช้คำพูด “ผู้เสียชีวิต” เหตุตึกถล่ม เชื่อครอบครัวยังมีความหวัง หลังสก.ตั้งกระทู้ปมไข้หวัดใหญ่ระบาด จี้กทม.หันกลับมาดูแลฉีดวัคซีน
MEA เดินหน้าโครงการ 'ถนนสวย ไร้สาย' นำสายสื่อสารลงใต้ดินถนนวิทยุ ยกระดับภูมิทัศน์เมือง เพิ่มความเป็นระเบียบและปลอดภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น