เจาะลึก “สภาผู้บริโภค” ผลงานคุ้มค่าเงินภาษีหรือไม่?
จากกรณีสถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้ติดตาม ขยายผลที่ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้เสนอขอรับงบอุดหนุนเงินจ่ายขาดประจำปี งบประมาณ 2568 วงเงิน 360.10 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติตามกรอบงบประมาณ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.67 นั้น
ต่อมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้กำกับดูแลสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้องดูแลเรื่องการขออนุมัติงบประมาณ และการกำกับดูแล ติดตาม สภาองค์กรของผู้บริโภคให้เป็นไปตามตัวชี้วัดที่กฎหมายกำหนด ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวท็อปนิวส์เมื่อวันที่ 2 เม.ย.67
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สภาองค์กรของผู้บริโภค ส่งคำร้องของบประมาณผ่านสำนักปลัดสำนักนายกมา จากนั้นก็จะต้องส่งไปให้สำนักงบประมาณเป็นผู้พิจารณา ซึ่งเคยได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเดิมเมื่อปี 64 เป็นเงินตั้งต้นแล้ว 350 ล้านบาท ได้รับประจำปี 2566 ได้งบกลางมา 153 ล้านบาท ในปี 2567 ได้รับการจัดสรร 149 ล้าน ซึ่งในปี 2568 ขอไป 360 ล้านบาทอยู่ระหว่างการพิจารณา หากจะมาถามตนในตอนนี้ ถือว่าเร็วไป หากอยากจะรู้รายละเอียดต้องไปตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งจะตรวจสอบให้ ซึ่งก็ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่านโยบายของรัฐบาลจะมีการกำชับกำกับการใช้งบประมาณแผ่นดินของสภาองค์กรของผู้บริโภคอย่างไรให้เกิดความคุ้มค่าโปร่งใส ไม่เกิดการทุจริตได้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สามารถที่จะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณได้ ซึ่งทางสำนักปลัดสำนักนายกฯคงจะมีการกำชับเรื่องนี้อยู่แล้ว ใครจะเอาไปใช้เถลไถลไม่ได้หรอกก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ซึ่งหากพบส่วนไหนมีการทุจริตสามารถร้องเรียนเข้ามาได้