พลเรือโทแดเนียล ฮาการี โฆษกแห่งกองทัพอิสราเอล (หรือ IDF) ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีการสอบสวนเหตุการณ์ที่รถขององค์กรการกุศลเวิลด์ เซ็นทรัล คิทเช่น (หรือ WCK) ถูกทหารอิสราเอลโจมตี จนทำให้เจ้าหน้าที่ขององค์กรเสียชีวิต 7 ราย โดยการแถลงของกองทัพระบุว่า การโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซาของสัปดาห์นี้พบว่า มีข้อผิดพลาดร้ายแรงและมีการละเมิดขั้นตอนของกองทัพ ทางกองทัพได้ไล่เสนาธิการยศพันเอกของกองพลน้อย และเจ้าหน้าที่ยศพันตรีที่สนับสนุนการยิงในกองพลน้อย รวม 2 นาย ออกจากกองทัพ พร้อมทั้งตำหนิเจ้าหน้าที่อาวุโสอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมถึงนายพลที่เป็นหัวหน้ากองบัญชาการทางตอนใต้ด้วย
คำแถลงระบุต่อว่า การโจมตีรถช่วยเหลือ ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่เกิดจากความล้มเหลว อันเนื่องมาจากการระบุตัวตนที่ไม่ถูกต้อง, ความผิดพลาดในการตัดสินใจ, และการโจมตีที่ขัดต่อขั้นตอนมาตรฐานของการปฏิบัติงาน โดยรถคันดังกล่าวเป็นรถขนาดเล็ก จอดอยู่ 3 คันรวมกับขบวนรถบรรทุกช่วยเหลือที่โรงเก็บเครื่องบิน แล้วมีการพบเห็นชายติดอาวุธคนหนึ่ง อยู่บนหลังคาของรถบรรทุกคันหนึ่ง ซึ่งในขณะที่รถเคลื่อนตัวออกจากโรงเก็บเครื่องบิน ผู้บังคับบัญชาไม่ได้ระบุว่า รถยนต์เหล่านั้นเป็นของ WCK แต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางกองทัพขอให้คำมั่นว่า จะแก้ไขข้อเท็จจริงที่กองทัพไม่สามารถเห็นโลโก้บนหลังคาในความมืดได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนครั้งใหญ่ ที่ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้
ด้านนายโยอาฟ ฮาร์-อีเวน หัวหน้ากลไกการค้นหาและประเมินข้อเท็จจริงของ IDF ซึ่งเป็นผู้นำของการสอบสวนดังกล่าวได้ออกมาเปิดเผยในรายละเอียดกับผู้สื่อข่าวว่า กองกำลังไม่สามารถมองเห็นโลโก้ WCK บนหลังคารถในความมืดได้ จึงได้กระทำการผิดพลาด บนความเชื่อที่ว่า รถเหล่านี้ได้ถูกกลุ่มฮามาสยึดไปแล้ว โดยความคิดตอนนั้นคือ ภารกิจด้านมนุษยธรรมเสร็จสิ้นหมดแล้ว ทางกองทัพก็กำลังติดตามรถของกลุ่มฮามาส ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืน 1 ราย และมีการระบุแบบผิดพลาดว่า ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว อยู่ในรถ 1 คัน จากในทั้งหมด 3 คันนี้
ฮาร์-อีเวนระบุรายละเอียดต่อไปว่า ทหารอิสราเอลทำการโจมตีรถคันแรก แล้วเห็นว่ามีคนวิ่งออกจากรถไปเข้ารถคันที่ 2 และเมื่อโจมตีไปที่รถคันที่ 2 ก็มีคนออกจากรถ 2 คน วิ่งไปเข้าคันที่ 3 จึงได้ทำการโจมตีต่อไปยังคันที่ 3 เช่นกัน การโจมตีดังกล่าวนี้ ถือได้ว่าเป็นการละเมิดขั้นตอนมาตรฐานของการปฏิบัติงานของ IDF จริง