“ทนายรัชพล” ชี้เคสลูกค้าคีบทิชชูใส่หม้อชาบู ส่อเข้าข่ายฉ้อโกง โทษจำคุก 3 ปี ปรับ 60,000

ล่าสุด วันนี้ (6 เม.ย. 67) ทีมข่าวท็อปนิวส์ สัมภาษณ์นายรัชพล ศิริสาคร หรือ ทนายรัชพล ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ ว่าเท่าที่ดูมีการคีบทิชชูลงไปในหม้อ แต่ลูกค้ากลับบอกกับทางร้านว่าทิชชู่มันอยู่ในหม้ออยู่แล้ว ประเด็นนี้ถือเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งจะมีการกล่าวอ้างว่าเผลอเรอเขาก็สามารถที่จะพูดได้ที่จะไปให้การในชั้นศาล ส่วนศาลจะเชื่อหรือไม่ก็จะดูที่เจตนา ถ้าหากศาลไม่เชื่อก็จะมีความผิดตามมาตรา 341 ข้อหาฉ้อโกงได้ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หากเข้าข่ายฉ้อโกงก็จะถือว่า เป็นการหลอกลวงผู้อื่น เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียกเสียหาย หรือให้ทางร้านลดราคาลง โดยการหลอกลวง แล้วได้ผลประโยชน์ไปก็จะครบองค์ประกอบของการฉ้อโกง ซึ่งในประเด็นนี้ทางร้านควรรีบไปแจ้งความดำเนินคดีเพราะอายุความมีกำหนดเพียง 3 เดือน

ส่วนประเด็นที่ลูกค้าคู่กรณี ออกมาเปิดเผยว่า ไม่ได้มีเจตนาโกง แต่ที่ร้องเรียนเพียงเพราะต้องการจะแจ้งรสชาติอาหาร จะสามารถต่อสู้ทางคดีได้หรือไม่ ทนายความมองว่า ประเด็นเรื่องร้องเรียนรสชาติอาหารกับเรื่องทิชชู่อยู่ในหม้อชาบูมันเป็นคนละประเด็นกัน เรื่องรสชาติอาหารสามารถติชมได้ สามารถไปร้องได้ที่กระทรวงสาธารณสุขหรือ สคบ. ก็อยากจะแนะนำลูกค้าคู่กรณี ว่า หากคิดว่าตนเองทำผิดจริง ก็ให้ออกมาขอโทษจะดีกว่าเพราะคดีนี้สามารถยอมความได้ ก่อนที่จะมีการแจ้งความดำเนินคดีจนเป็นเรื่องใหญ่โต สามารถพูดคุยและยอมความกันได้ แต่หากทางร้านไปแจ้งความแล้ว ก็ถอนแจ้งความ เรื่องก็จะยุติลงเพียงเท่านั้น และฝากเตือนสังคมถึงลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการรับประทานอาหารตามร้านต่างๆ ก็ต้องมีความสุจริต ไม่ใช่ไปหวังผลประโยชน์เพียงเล็กๆน้อยๆหากถูกดำเนินคดีมันไม่คุ้มค่ากัน

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่มายังที่ร้านตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งก็ยังไม่พบเจ้าของร้าน หรือผู้จัดการร้านแต่อย่างใดพบเพียงพนักงานในร้าน จึงเข้าสอบถามพูดคุย ทราบว่าในวันนี้ร้านเปิดให้บริการตามปกติ แล้วก็ไม่ทราบด้วยว่าเจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านจะเข้ามาที่ร้านในเวลากี่โมงส่วนเรื่องความคืบหน้าของประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นตนไม่ทราบเลย เพราะเป็นเพียงพนักงานในร้านเท่านั้น