“แม่ทัพภาคที่ 4” สั่งเร่งล่าตัวคนร้าย ซุ่มยิงถล่มรถทหารพราน รือเสาะ เสียชีวิต 2 นาย

"แม่ทัพภาคที่ 4" สั่งเร่งล่าตัวคนร้าย ซุ่มยิงถล่มรถทหารพราน รือเสาะ เสียชีวิต 2 นาย

วันที่ 8 เม.ย.67 เวลา 10.23 น. พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รายงานเหตุการณ์เมื่อกลางดึกของวันที่ 7 เม.ย.67 เวลา 22.40 น. เพิ่มเติม กรณีที่คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิง ขณะเดินทางด้วยรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน เพื่อกลับจากการปฏิบัติภารกิจตรวจเยี่ยมการจัดทำซุ้มประตู เหตุเกิดพื้นที่ บ้านบลูกาฮีเล หมู่ที่ 6 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต จำนวน 2 นาย คือ อาสาสมัครทหารพราน วิทยา ปวงงาม อายุ 30 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ที่ 7 ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา กับ อาสาสมัครทหารพราน ประคอง สุทนัง อายุ 48 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 220 หมู่ที่ 15 ตำบลนาจะหลวย อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี และบาดเจ็บ จำนวน 9 นาย มีรายละเอียด ดังนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

1. สิบเอก สุรเดช สังขวงค์ ถูกยิงเล็กน้อยบริเวณศรีษะ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลรือเสาะ

2. จ่าสิบเอก ศักดิ์รพี เพชรเรือนทอง ถูกยิงบริเวณขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลนราธิวาส

3. อาสาสมัครทหารพราน อนันต์ บือราเฮง ถูกยิงบริเวณขาและแขนได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลนราธิวาส

4. อาสาสมัครทหารพราน เปาซี เจ๊ะเต๊ะ ถูกยิงบริเวณซี่โครงด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลนราธิวาส

5. อาสาสมัครทหารพราน มะกอเส อุมา ถูกยิงบริเวณต้นขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลนราธิวาส

6. ร้อยเอก ชัยยุทธ สุกบู ผู้บังคับกองร้อยทหารพรายที่ 4613 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รักษาตัวที่หน่วย

7. อาสาสมัครทหารพราน สามะแอ ดือมาสิ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลรือเสาะ

8. อาสาสมัครทหารพราน อาดนัย สุหลง ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลรือเสาะ

9. อาสาสมัครทหารพราน สมาน ลีอาเดี๋ยว ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลรือเสาะ

 

 

โดยภายหลังเกิดเหตุ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของ อาสาสมัครทหารพราน วิทยา ปวงงาม และ อาสาสมัครทหารพราน ประคอง สุทนัง ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งเน้นย้ำให้เร่งดำเนินการในเรื่องการดูแลสิทธิ ตลอดจนสวัสดิการด้านต่าง ๆ ให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ พร้อมทั้งสั่งการคุมเข้มพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ รวบรวมวัตถุพยาน และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ ทุกฐานปฏิบัติการเพิ่มมาตรการควบคุมความปลอดภัย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียของกำลังพลเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชน ใช้ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อจำกัดเสรีการก่อเหตุ คุมเข้มพื้นที่รับผิดชอบทุกตารางนิ้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น