พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต และ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ แห่งวัดสร้อยทอง พระอารามหลวง ได้เดินทางมารัฐสภาตามที่ นายสุชาติ อุสาหะ ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร นิมนต์ เพื่อหารือถึงแนวทางการไลฟ์สดที่เกิดกระแสวิจารณ์ในโซเชียล สอนธรรมมะอย่างไรให้เหมาะสม โดยพระมหาสมปอง และพระมหาไพรวัลย์ มาถึงด้วยท่าทีสบาย ๆ ไม่มีความกังวลใจใดใด ๆ พร้อมกับทักทายสื่อมวลชนด้วย
พระมหาสมปอง กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรมาชี้แจงเป็นพิเศษ พร้อมชี้แจ้งทุกประเด็นที่กรรมาธิการจะถามมาว่าการไลฟ์สดที่ผ่านมา ขาดหรือเกินอย่างไรบ้าง แต่ถ้าหากเกินคงจะเป็นเสียงหัวเราะของพระมหาไพรวัลย์ ส่วนเรื่องแนวทางการไลฟ์สดจะปรับเปลี่ยนหรือไม่นั้น ก็จะต้องหารือกับทางกรรมาธิการก่อน แต่จะไม่หยุดไลฟ์สดแน่นอน เพียงแต่จะสำรวมมากขึ้น ส่วนการไลฟ์สดลักษณะนี้ทำให้คนสนใจธรรมมะมากขึ้นหรือไม่นั้น ขอให้เชื่อมืออาตมา เพราะว่าอาตมาบรรยายธรรมมากว่า 20 ปี รู้ว่าจะต้องเก็บคนดูตอนไหน ช่วงไลฟ์สดตอนแรก เป็นเหมือนคาบแรกที่เข้าเรียน อาจกำลัง งง กับเด็กนักเรียนอยู่ แต่ต่อมาก็โดนอาจารย์ตำหนิว่าสอนอะไรกัน
พระมหาสมปอง กล่าวอีกว่า อาตมาพร้อมชี้แจงทุกประเด็น โดยหลังจากนี้หากมีหน่วยงานอื่นเชิญไปชี้แจงเพิ่มเติม อาตมาก็พร้อมชี้แจงทุกกรณี แต่ก็มีสิ่งที่อยากจะถามกลับไปยัง กมธ.ศาสนาฯ เช่นเดียวกันว่า ในกรณีที่บอกว่า กมธ. มีหน้าที่อุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนา แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้มีใครอุปถัมภ์เลย ต่อไปพระรุ่นใหม่ ที่ฝึกฝนตนเอง กมธ.จะสนับสนุนพระรุ่นใหม่อย่างไร อีกทั้งพระมหาสมปองได้ฝากธรรมมะ ก่อนเข้าพบกรรมาธิการ ว่า จงลืมเสียเถิดความหลัง จงสร้างปัจจุบันและอนาคตที่ดี และยืนยันว่าจะเน้นเผยแพร่พระพุทธศาสนาต่อแน่นอน คิดซะว่าการไลฟ์สดแต่ละครั้ง เหมือนการพรีเซนต์งานหน้าห้องเรียน แล้วอาจารย์คอมเมนต์ว่าต้องแก้ไขเพิ่ม หรือต้องเพิ่มเติมข้อมูลบางอย่าง ซึ่งอาตมาก็พร้อมทำ และทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
จึงอยากฝากถึง ส.ว. และ ส.ส.ว่า ในเมื่ออยากเป็น หรืออยากอยู่ในตำแหน่งนี้ก็จะต้องทำงานไปด้วย ทำงานให้สมกับที่อยากเป็น เหมือนกับที่อาตมาต้องการเผยแพร่ศาสนาเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน แต่จงจำไว้ว่า “ธรรมชาติของตาอยู่ต่ำกว่าสมอง จงอย่าตัดสินแค่การมอง โดยการลืมไตร่ตรองด้วยสมองที่สูงส่ง” ไม่ว่าจะเห็นอะไรอยากให้ตัดสินใจให้ดีก่อน หรือดูหนังให้จบม้วนค่อยตัดสิน เพราะสมัยนี้โลกโซเชียลเร็ว และเรียลมากๆ ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดู ประโยชน์ หรือโทษ อันไหนหนักกว่ากัน เพราะเราเพิ่มประโยชน์และสิ่งดีมีคุณค่าได้ เหมือนพวกท่านที่สนใจในคลิป เมื่อสักครู่ตอนลงรถ ยังถามพระมหาไพรวัลย์ ว่า เคยคิดว่าจะมีอย่างนี้หรือไม่ อยู่ก็มาเจอคนเยอะ ทั้งนี้ พระมหาไพรวัลย์ ได้ตอบกลับว่า “นึกว่ามางานเมืองคาน”
โดยพระมหาไพรวัลย์ กล่าวเสริมว่า กรณีที่มีคนบอกว่า มาไลฟ์สดลักษณะเช่นนี้ไม่สำรวม ขอชี้แจงว่าไม่ได้กังวลใดๆ เพราะก่อนหน้านี้ก็ออกรายการมาเยอะ สิ่งที่ทำมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย เรื่องเสียงหัวเราะไม่น่าเป็นปัญหาระดับชาติ สำหรับประเด็นการรับงานหรือกิจนิมนต์ต่างๆ ยังคงรับงานได้ตามปกติ เพราะมีเด็กวัดคอยช่วยเหลืออยู่แล้ว แต่อาจจะมีเสริมเพิ่มเติมในส่วนของเลขาผู้ประสานงาน อาจจะสะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ถือคติว่าทั้งหมดอาจจะไม่มี สิ่งที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดก็ไม่มีอยู่จริง อยากให้ชั่งใจเอาไว้ก่อน อาตมามองว่าการจะทำอะไรให้ถูกใจทุกคนคงยาก ตอนนี้คงต้องเอาอาตมา และพระมหาสมปองขึ้นชั่ง อาจจะชัดเจนมากกว่า จากนั้น พส. ทั้ง 2 รูป ได้ขึ้นลิฟต์ไปยังห้องประชุม กมธ. เพื่อร่วมชี้แจงต่อไป