“ส.ว.” ตีแผ่รายงานจับผิดพรรคการเมืองใช้โซเซียลปั่นกระแสบิดเบือนข้อมูลหาเสียง จี้ “กกต.” ยกเครื่องกฎหมายไล่ฟันเอาผิด

"ส.ว." ตีแผ่รายงานจับผิดพรรคการเมืองใช้โซเซียลปั่นกระแส ป้อนเฟกนิวส์ ให้ร้ายคู่แข่ง บิดเบือนข้อมูลหาเสียง จี้ "กกต." อย่าโลเทคต้องยกเครื่องกฎหมายไล่ฟันเอาผิด

TOP News รายงานข่าว – นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมในวันที่ 9 เม.ย. โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจ คือ การพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) เป็นประธานกมธ. ซึ่งเสนอผลการศึกษา เรื่อง การพัฒนาพรรคการเมืองและการสร้างพลเมืองในยุคดิจิทัล : ปัญหาและแนวทางแก้ไข โดยเน้นถึงปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และมีข้อเสนอต่อการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จี้ “กกต.” ยกเครื่องระเบียบไม่ทันสมัยกับการเปลี่ยนแปลงการใช้สื่อสังคมออนไลน์

การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสื่อสารตามประเด็นทางการเมืองของพรรค ซึ่งพบปัญหาคือ การนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นจริง สร้างความเข้าใจผิด ทั้งนี้พรรคการเมืองมีความไม่เท่าเทียมในการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการหาเสียงและการสนับสนุนจากประชาชนกลุ่มที่ใช้สื่อสังคมเป็นหลัก โดยพรรคการเมืองที่มีความพร้อมและใช้ประโยชน์จากการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คือ พรรคก้าวไกล ที่พบว่ามีสมาชิกมากสุด โพสต์บ่อยครั้ง รองลงมา คือ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย

สำหรับการกำกับ และตรวจสอบการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่า ระเบียบไม่ทันสมัยกับการเปลี่ยนแปลงการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เพราะกกต.ออกระเบียบการหาเสียงเลือกตั้ง พ.ศ.2550 ที่กำหนดขอบเขตการหาเสียงอิเล็กทรอนิกส์ไว้เพื่อให้การหาเสียงมีหลากหลายช่องทาง ขณะที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 70 กำหนด กกต. ออกคำสั่ง แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด และระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีหาเสียงและลักษณะต้องห้ามการหาเสียงเลือกตั้ง สส. พ.ศ.2561 กำหนดกรอบค่าใช้จ่ายหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมไม่เกิน 10,000 บาท

“ปัญหาที่ กกต. ประสบ คือ มีสื่อโฆษณาหาเสียงจำนวนมาก ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ เพราะพบเฟกนิวส์ การให้ข้อมูลที่เป็นลบกับผู้สมัคร การปฏิเสธความรับผิดชอบ และ กกต. ไม่มีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โซเชียลมีเดีย มีข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และงบประมาณ” รายงานระบุ

 

 

รายงานของกมธ. ยังมีข้อเสนอด้านกฎหมาย คือ แก้ไข มาตรา 23 มาตรา 57 มาตรา 62 มาตรา 64 มาตรา 70 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และระเบียยบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง ข้อ33 และ ข้อ 34 ให้ทันสมัย เพื่อใช้เป็นสื่อในการส่งเสริมความรู้ การเมือง การปกครอง และเพิ่มช่องทางให้พรรคการเมืองระดมทุน การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ได้เหมาะสมใต้ข้อกฎหมาย

นอกจากนี้ยังแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ.2561 มาตรา 69, มาตรา 70 มาตรา 71 มาตรา 73(5) มาตรา 79 มาตรา 81 และ มาตรา156 รวมถึงแก้ไขระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. เพื่อกำหนดให้การควบคุมการหาเสียงเลือกตั้งและการคำนวณค่าใช้จ่ายในการหาเสียงผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงคอนเทนต์ของผู้สมัครหรือโจมตีพรรคการเมือง ผู้สมัคร, การดำเนินการเอาผิดผู้ที่กระทำผิด ทั้งผู้แชร์ข้อมูล เพื่อให้เกรียนคีย์บอร์ดเกรงกลัว ไม่ทำผิดต่อเนื่อง เพิ่มความรวดเร็วและกระชับในการลงโทษในกระบวนการยุติธรรม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่
"ทรัมป์" บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก "ยูเครน" ขู่ปิดเน็ต Starlink
เอาจริง "ตร.ปอท." บุกจับ 2 แอดมินเพจ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลาง เกือบ 2 พันชิ้น
“ภูมิธรรม" เดินหน้าปราบแก๊งคอลฯ ผนึกกำลังเพื่อนบ้าน ปิดช่องโหว่ อาชญากรข้ามชาติทุกช่องทาง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น