logo

“หมอชลน่าน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เฝ้าระวังมะเร็งปอด

“หมอชลน่าน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ฝุ่นและมาตรการสาธารณสุข เพิ่มการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปอด มอบมุ้งกันฝุ่นให้อสม.แจกผู้ป่วยติดเตียง

“หมอชลน่าน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เฝ้าระวังมะเร็งปอด – Top News รายงาน

หมอชลน่าน

วันนี้ (9 เม.ย. 67) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 และมาตรการด้านสาธารณสุข พร้อมมอบมุ้งสู้ฝุ่นให้กับตัวแทน อสม. ทั้ง 25 อำเภอ เพื่อส่งมอบให้กับผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในพื้นที่

โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสถานการณ์ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงขึ้นต่อเนื่องในเขตภาคเหนือ จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง จึงได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ติดตามมาตรการดูแลด้านสุขภาพ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้วางมาตรการรองรับไว้ตั้งแต่เข้าสู่ฤดูหนาวในเดือนตุลาคม 2566 ที่เริ่มพบค่าฝุ่นสูงขึ้น 4 มาตรการหลัก ได้แก่ 1) ส่งเสริมการลดมลพิษ ด้วยการสื่อสารให้ความรู้ประชาชน 2) ลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ ด้วยการเฝ้าระวังแจ้งเตือนประชาชน และเฝ้าระวังในกลุ่มเสี่ยง 3) จัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ทั้งบริการเชิงรุกในพื้นที่และในสถานพยาบาล และ 4) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ผ่านระบบบัญชาการเหตุการณ์ในภาวะวิกฤต

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้เขตสุขภาพที่ 1 ซึ่งประกอบด้วยภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ได้บูรณาการแพลตฟอร์มระบบเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ กรณี PM 2.5 ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและมหาวิทยาลัย ติดตามข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ทั้งสถานการณ์ จุดความร้อน และผลกระทบสุขภาพ 5 โรคสำคัญ คือ ถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด ผื่นแพ้ผิวหนัง ตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด จากระบบฐานข้อมูล HIS ของโรงพยาบาลในเขต 103 แห่ง ทำให้ตอบโต้สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็

นอกจากนี้ยังเพิ่มการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปอด โดยจัดทำโครงการต้นแบบคัดกรองมะเร็งปอดด้วยวิธีเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำในกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีมีการสูบบุหรี่ 30 ซอง/ปี อยู่ในพื้นที่มากกว่า 20 ปี และมีญาติพี่น้องเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งในเขตมีประมาณ 1.8 ล้านคน โดยจะผลักดันให้อยู่ในสิทธิประโยชน์ของมะเร็งครบวงจรต่อไป

สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จากการสำรวจกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก 0-5 ปี หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ป่วย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังเฉียบพลัน โรคหอบหืด โรคหัวใจขาดเลือด และผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง มีรวมทั้งสิ้น 370,681 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยถุงลมโป่งพองที่เสี่ยงอาการกำเริบ 3,287 ราย ซึ่งจะประสานหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยสนับสนุนเรื่องมุ้งสู้ฝุ่น เพื่อเพิ่มพื้นที่ปลอดฝุ่นภายในบ้าน ลดการรับสัมผัสฝุ่นให้ครอบคลุมผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงให้มากที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครม.นัดพิเศษ แต่งตั้ง "หมอมิ้ง นพ.พรหมินทร์" นั่งเลขาธิการนายกฯ
ตามรวบ "สาวแสบมิจฉาชีพออนไลน์" ส่งลิ้งลวงเหยื่อ ขอคืนเงินค่า FT ก่อนดูดเงินเกลี้ยงบัญชี เสียหายเกือบ 2 ล้านบาท
ททท.จัดต่อเนื่อง "Amazing Muay Thai Experiences" ตอกย้ำเสริมเสน่ห์ไทยด้วยกีฬา "มวยไทย" ชวนนักท่องเที่ยวเดินทางสัมผัสประสบการณ์ถึงถิ่นกำเนิดมวยดี 4 สาย
จนท.บุกตรวจ "แรงงานต่างด้าว" 149 คน แอบเช่าบ้าน 2 หลังในชุมชนขอนแก่น เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
"วรชัย" วอน "เสรีพิศุทธ์" อย่าตั้งเป้าโจมตี ขอโอกาสรัฐบาลทำงาน ให้เวลาพิสูจน์แก้ปัญหาปชช.
“อ.ธรณ์” ห่วง “ฮาลองเบย์” สถานที่สวยงาม ถูกพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" พัดถล่ม หวังให้ทุกคนที่นั่นปลอดภัย
ไร้ปาฏิหาริย์ พบแล้ว "นทท.เบลเยี่ยม" หลังหายตัวลึกลับ ทีมค้นหาพบร่าง บริเวณท้ายฝาย "น้ำตกแม่เย็น"
"พิพัฒน์" เดินหน้า 1 ต.ค. ปรับค่าแรง 400 พร้อม 7 มาตรการ ลดกระทบนายจ้าง-ลูกจ้าง ถกพณ.คุมสินค้าแพง
เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ตราดรับฟังสถานการณ์บริหารจัดการน้ำรับมือน้ำท่วมหลังพายุไต้ฝุ่นนางิ และ ฝนตกหนักกลางเดือนกันยายน หวั่นท่วมรอบ 2
น่าห่วง "แม่น้ำยม" สายหลักพิษณุโลก เพิ่มระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง ไหลท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำทุกหมู่บ้านแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น