อียูเปิดสอบสวนบริษัทกังหันลมจีน ว่าได้รับเงินอุดหนุน ที่ไม่เป็นธรรมต่อการแข่งขันกับบริษัทยุโรปหรือไม่
ในวันอังคาร สหภาพยุโรปประกาศเปิดการสอบสวน บริษัทกังหันลมของจีน ที่ต้องสงสัยว่าได้รับความได้เปรียบอย่างไม่ยุติธรรมในตลาดยุโรปผ่านการอุดหนุนจากต่างประเทศ
นางมาร์เกรเธอ เวสตาเกอร์ หัวหน้าฝ่ายการแข่งขันของสหภาพยุโรป กล่าวในสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ของสหรัฐว่า วันนี้อียูกำลังเปิดตัวการสอบสวนครั้งใหม่ เกี่ยวกับบริษัทซัพพลายเออร์กังหันลมในจีน และกำลังตรวจสอบเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการฟาร์มลม ในสเปน กรีซ ฝรั่งเศส โรมาเนีย และบัลแกเรีย อย่างไรก็ดี เวสตาเกอร์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า บริษัทกังหันลมใด ที่ตกเป็นเป้าหมาย
ในปีที่ผ่านมา อียูได้ดำเนินการที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของยุโรปจากภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากทั้งจีนและสหรัฐ การสอบสวนเรื่องกังหันลมครั้งนี้ เป็นไปตามการสอบสวนที่คล้ายกันที่เกิดขึ้นก่อนหน้า โดยมุ่งเป้าไปที่ เงินอุดหนุนของรัฐบาลจีน ที่มอบให้กับอุตาสหกรรม ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ รถอีวี และรถไฟ ในขณะที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างยุโรปและจีนร้อนแรง
กลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งประกอบด้วย 27 ประเทศ ต้องการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียน โดยมีเป้าหมายที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ขณะเดียวกันก็ต้องการเลิกพึ่งพาเทคโนโลยีลมและพลังงานแสงอาทิตย์ของจีน ที่มีราคาถูกเกินไป
การสอบสวนครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นภายใต้กฎใหม่ที่มีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เพื่อพยายามป้องกันไม่ให้เงินอุดหนุนจากต่างประเทศ บ่อนทำลายการแข่งขันที่ยุติธรรมในสหภาพยุโรป โดยสหภาพยุโรปเปิดการสอบสวนครั้งแรก ในเดือนกุมภาพันธ์ มุ่งเป้าไปที่บริษัทในเครือของบริษัท CRRC บริษัทรถไฟยักษ์ใหญ่ของจีน แต่การสอบสวนดังกล่าวปิดตัวลง หลังจากที่บริษัทในเครือถอนตัวเมื่อเดือนมีนาคม
ส่วนการสอบสวนครั้งที่สองที่ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กำลังเล็งไปที่ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของจีน ที่ต้องการสร้างและดำเนินการฟาร์มโซลาร์เซลล์ในโรมาเนีย โดยได้รับทุนบางส่วนจากกองทุนยุโรป
อีกทั้งภายใต้กฎหมายชุดอื่น ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ทางกลุ่มก็ได้เริ่มการสอบสวน เรื่องการอุดหนุนรถอีวีของจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การลงโทษทางภาษี สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่กลุ่มเชื่อว่า ขายในราคาที่ต่ำกว่าอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งจีนเตือนว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว อาจส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ทางการค้า และเสี่ยงต่อการเกิดสงครามการค้าอีกด้วย