“นายกฯ” ประชุมคกก.เงินดิจิทัล 10,000 ถามหาผู้ว่าธปท.

"นายกฯ" ประชุมคกก.เงินดิจิทัล 10,000 ถามหาผู้ว่าธปท.

นายกฯ” ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ถามหาผู้ว่าธปท.

วันที่ 10 เม.ย. 67 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 3/2567

นายกฯ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยก่อนการประชุมนายกฯ ได้ถามหานายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าธปท.ตอบกลับว่า “ผู้ว่าฯ ธปท.ติดภารกิจประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครับ” โดยนายกฯ กล่าวว่า “ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวค่อยว่ากัน”

 

อย่างไรก็ตามสำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินวันนี้ ผู้ว่า ธปท.จะนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม จึงต้องจับตาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ว่าในที่ประชุมจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ หลังนายกรัฐมนตรีออกมายืนยันในจุดยืนเสมอว่า ต้องการให้ กนง.ปรับอดอัตราดอกเบี้ย 0.25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

 

 

ก่อนหน้านั้น นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ เหตุผลหลักอย่างหนึ่งคือขาดเม็ดเงินลงทุนที่เพียงพอและกระจายตัว ซึ่งการกระตุ้นการลงทุนที่สามารถสร้างผลกระเทือนเป็นห่วงโซ่ไปยังธุรกิจอื่นๆได้มากคือภาคอสังหาริมทรัพย์ จึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการที่รัฐบาลเตรียมประกาศออกมานั้นจะส่งเสริมให้เกิดการซื้อ-สร้าง-ซ่อม ที่อยู่อาศัย เพื่อดึงเงินเข้าระบบผ่านการจ้างงาน การซื้อวัสดุก่อสร้าง และการผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อการกระตุ้นจีดีพีด้วย ทั้งนี้ตนอยากให้มีมาตรการที่มุ่งช่วยให้กลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเองได้ด้วย เพราะกลุ่มนี้เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นอกเหนือจากจะสร้างผลกระเทือนทางเศรษฐกิจแล้ว ยังสามารถยกระดับมาตรฐานคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลได้ด้วย

นอกเหนือจากมาตรการที่ทางรัฐบาลดำเนินการได้แล้ว ตนอยากเรียกร้องไปถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายตามที่มีการเรียกร้องกันมายาวนาน เพื่อช่วยลดภาระดอกเบี้ยของผู้ผ่อนบ้าน และผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan-to-Value) ให้ผู้ซื้อสามารถกู้ได้ในสัดส่วนที่สูงขึ้น หรือเต็ม 100% เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านและเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น เพราะที่อยู่อาศัยเป็นสินค้าจำเป็น และมีราคาเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่องตามกาลเวลา มิใช่สินค้าฟุ่มเฟือย อีกทั้งการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารก็ต้องพิจารณาศักยภาพในการผ่อนของผู้กู้ด้วยอยู่แล้ว เชื่อว่าหากปลดล็อคข้อจำกัดว่าให้กู้ได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าทรัพย์สินนี้ จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจ และยังมีผลสืบเนื่องช่วยกระตุ้นการซื้อขายทั้งบ้านใหม่และบ้านเก่า ช่วยดึงเม็ดเงินกลับเข้าสู่ระบบได้อีกทางหนึ่งด้วย

”ผมมั่นใจว่านายกฯเศรษฐาสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย และคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นได้ไปพร้อมกัน แต่มาตรการทางการเงินเองก็มีความสำคัญมากในการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจ หากแบงก์ชาติสามารถทำงานเป็นทีมกับรัฐบาลได้ จะเป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด“

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น