“สมณะโพธิรักษ์” ผู้นำจิตวิญญาณสำนักสันติอโศก มรณภาพแล้ว ลูกศิษย์เศร้าแห่โพสต์อาลัย
วันที่ 11 เม.ย. 67 เพจเฟซบุ๊ก “บุญนิยมทีวี” โพสต์ข้อความแจ้งข่าวเศร้า พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ มรณภาพ ด้วยโรคชรา เวลา 06.40.10 น. วันพฤหัสบดี 11 เมษายน 2567
วันที่ 11 เม.ย. 67 เพจเฟซบุ๊ก “บุญนิยมทีวี” โพสต์ข้อความแจ้งข่าวเศร้า พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ มรณภาพ ด้วยโรคชรา เวลา 06.40.10 น. วันพฤหัสบดี 11 เมษายน 2567
ข่าวที่น่าสนใจ
ขณะที่ นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ โพสเฟซบุ๊กระบุว่า พ่อท่านโพธิรักษ์สิ้นบุญแล้วเมื่อเช้านี้ ด้วยอายุ 90 ปี ขอแสดงความไว้อาลัยอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของพ่อท่านซึ่งเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวสันติอโศกจำนวนมาก ท่านได้อุทิศตนเองเพื่อประโยชน์และความสุขของผู้อื่นมาตลอดอายุขัยของท่าน ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่รู้จักนับถือกัน พ่อท่านมีเมตตากับผมอย่างยิ่งตลอดมา
ในช่วงที่ไวรัสโคบ้าระบาด และได้พบว่าน้ำหมักพลูคาวของสันติอโศก สามารถรักษาโคบ้าได้ ผมได้สั่งซื้อน้ำหมักพลูคาวจากสันติอโศกเป็นจำนวนมากแจกจ่ายฟรีไปทั่วประเทศ ความทราบถึงพ่อท่านท่านก็สั่งลูกศิษย์ว่าอาจารย์ไพศาลจะซื้อไปแจกไม่ได้เอาไปขาย ดังนั้นสันติอโศกต้องร่วมทำบุญกับอาจารย์ไพศาล และสั่งให้ขายน้ำหมักพลูคาวแก่ผมในอัตราครึ่งหนึ่ง คือขวดละ 40 บาท ซึ่งได้ช่วยชีวิตผู้คนไว้เป็นจำนวนมาก จึงขอกราบขอบพระคุณพ่อท่านโพธิรักษ์ไว้ณโอกาสนี้ด้วย
ต่อมาบรรดา ศิษยานุศิษย์ เข้ามาแสดงความอาลัยกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับ สมณะโพธิรักษ์ (รัก รักพงษ์) เป็นนักบวชผู้ก่อตั้งและผู้นำทางจิตวิญญาณของสำนักสันติอโศก มีชื่อเดิมว่า มงคล รักพงษ์ เกิดวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2477 ที่จังหวัดศรีสะเกษ ในวัยเด็กอาศัยอยู่กับมารดาที่จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลังได้เข้ามาศึกษาชั้นมัธยมที่กรุงเทพฯ เมื่อเรียนจบมัธยมปลายก็ได้เข้าศึกษาต่อ ที่โรงเรียนเพาะช่าง แผนกวิจิตรศิลป์ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น รัก รักพงษ์
ขณะที่กำลังเรียนอยู่ได้เข้าทำงานที่ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด เป็นผู้จัดรายการ เป็นรายการเกี่ยวกับเด็ก, การศึกษา และวิชาการ นอกจากงานทางสถานีโทรทัศน์แล้ว ก็ยังทำงานเป็น ครูพิเศษ สอนศิลปะตามโรงเรียน นักแต่งเพลง และเด็กส่งหนังสือพิมพ์
ต่อมาได้หันมาศึกษา พุทธศาสนาและได้อุปสมบทในคณะธรรมยุติกนิกาย ณ วัดอโศการาม เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2513 ได้รับฉายาว่า โพธิรกฺขิโต มีพระราชวรคุณ (สำรอง คุณวุฑฺโฒ) เป็นพระอุปัชฌาย์
2 เมษายน พ.ศ. 2516 พระโพธิรักษ์ ได้เข้ารับการแปรญัตติฯ เป็นพระของคณะมหานิกายอีกคณะหนึ่ง โดยมิได้สึกจากคณะธรรมยุต ที่วัดหนองกระทุ่ม จ.นครปฐม โดยมีพระครูสถิตวุฒิคุณ เป็นอุปัชฌาย์ เนื่องจากมีพระคณะมหานิกายเข้ามาร่วมศึกษา และปฏิบัติตามพระโพธิรักษ์ แต่พระราชวรคุณ ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ ไม่ต้องการ ให้พระฝ่ายมหานิกายเข้ามาศึกษาด้วย
25 เมษายน พ.ศ. 2516 พระโพธิรักษ์ได้คืนใบสุทธิให้ฝ่ายธรรมยุต ถือไว้แต่ใบสุทธิ ฝ่ายมหานิกาย อย่างเดียว
6 สิงหาคม พ.ศ. 2518 พระโพธิรักษ์และคณะ ได้ประกาศ นานาสังวาส กับมหาเถรสมาคม (ประกาศลาออกจากมหาเถรสมาคม) และได้รับความคุ้มครอง ตามมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่านอกรีต จากการปฏิบัติที่เคร่งครัดของพระโพธิรักษ์และคณะ ได้แก่ ฉันอาหารมังสวิรัติ, ฉันอาหารวันละ 1 มื้อ, ไม่ใช้เงินทอง, นุ่งห่มผ้าย้อมสีกรัก, ไม่มีการเรี่ยไร, ไม่รดน้ำมนต์-พรมน้ำมนต์, ไม่ใช้การบูชา ด้วยธูปเทียน, ไม่มีไสยศาสตร์ฯ
ในภายหลัง พระโพธิรักษ์ และคณะ ได้รับการพิพากษาว่าเป็น ผู้แพ้ ไม่สามารถ เรียกขานตนเองว่า พระ ได้ จึงเรียกตนเองว่า สมณะ แทน และยังคงปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเหมือนเดิม
สมณะโพธิรักษ์ได้ก่อตั้งพรรคพลังธรรม โดยมี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นหัวหน้าพรรค ทั้งยังได้มีบทบาททางการเมือง โดยนำพาผู้ปฏิบัติธรรมสันติอโศกเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 รวมถึงการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ต่อต้านรัฐบาลทั้งในปี พ.ศ. 2549 และพ.ศ. 2551 รวมถึงการชุมนุมของกปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ในปี พ.ศ. 2556 และพ.ศ. 2557 ด้วย โดยเฉพาะการชุมนุมของ กปปส.นั้น สมณะโพธิรักษ์และผู้ปฏิบัติธรรมสันติอโศกได้ปักหลักชุมนุมที่สวนลุมพินีตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ร่วมกับกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) โดยก่อนหน้านั้น ในปี พ.ศ. 2555 ก็ได้เคยเข้าร่วมการชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น