วันที่ 11 เม.ย.67 ที่อาคารมาลีนนท์ ทางด้าน นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า ในกรณีนี้มันเป็นเรื่องของการผิดสัญญาหมั้น กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า บุคคลใดก็ตามที่อีกฝ่ายหนึ่งมาถูกกระทำ คู่หมั้นตัวเองก็สามารถเรียกค่าทดแทนกับบุคคลที่ 3 ได้ รวมถึงสามารถเรียกค่าการเลี้ยงดูต่างๆได้ และอีกทางนะครับ อีกกรณีหนึ่งในทางกลับกันถ้าที่เกิดเหตุมีการบันดาลโทสะที่ฝ่ายชายโผเข้าไปต่อยหรือทำร้ายตัวพระเอง ถามว่าทำได้มั้ย กฎหมายมีเหตุคำว่าบรรเทาโทษ ซึ่งสามารถจะมีการบันดาลโทสะสามารถที่จะทำได้
ในส่วนของหมั้นเมื่อฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้นก็จะสามารถเรียกคืนได้ รวมถึงกรณีที่พูดถึงตอนแรก สามารถที่จะฟ้องบุคคลที่ 3 ได้ การฟ้องมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่เรารู้ นี่คือข้อกฎหมาย
นักข่าว : หมายความว่าตัวสามีสามารถที่จะเรียกร้องได้ทั้งพระมหา ห. และอดีตคู่หมั้น
ทนายแก้ว : ถูกต้องครับ คือเรื่องนี้มันมีเรื่องของการหมั้น ก็คือมุ่งหมายที่จะสมรสกัน แต่ในกรณีนี้ ยังไม่มีการจดทะเบียนสมรส ยังอยู่ในหมวดของการหมั้นกันอยู่ มันไม่เหมือนกับชายชู้หญิงชู้ ในกรณีของการเป็นชายชู้หญิงชู้จะต้องเป็นเรื่องของการจดทะเบียน มันมี 2 เลเวล เลเวลแรกเรื่องของการหมั้น และในกรณีที่คู่หมั้นผิดสัญญาแบบนี้เรียกกับบุคคลที่ 3 ได้ คนที่มาทำกับสามีหรือคู่หมั้นเรา
นักข่าว : เรียกได้ในจำนวนเงินที่เท่าไหร่?
ทนายแก้ว : ก็แล้วแต่ค่าเสียหายที่ฝ่ายชายหรือตัวสามีกำหนด รวมถึงกรณีของหมั้นเกิดเราคิดว่าเราต้องเรียกคืน ก็สามารถที่จะเรียกคืนได้
นักข่าว : ถ้าเกิดว่าทางฝ่ายหญิงไม่คืน?
ทนายแก้ว : มันก็ต้องฟ้องร้องไปอะครับ อาจจะต้องเอาหมายศาลไปบังคับยึดทรัพย์สินคืน ตรงนี้มันก็ต้องไปว่ากัน
นักข่าว : ความผิดของพระมหา ห. จะต้องมีติดคุกติดตารางอะไรมั้ย?
ทนายแก้ว : ในกรณีนี้เมื่อกฎหมายมันไม่ได้บัญญัติไว้ ก็ต้องบอกว่าเขายังไม่มีความผิด
เวลาต่อมาคู่หมั้นของนักการเมืองหญิงรายนี้ก็ได้เปิดใจกับ สื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่า รู้ระแคะระคายมาไม่ถึงเดือนที่มันมีเหตุดูผิดปกติ และผมก็ได้กลับไปที่บ้านน่าจะ 2 ครั้ง ครั้งหลังสุดที่กลับไปที่อยู่ในห้องนอนที่มีพระมหา ห. มาอยู่กับคู่หมั้น
นักข่าว : ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นเขาไปทำบุญหรืออะไรมั้ย ?
สามี : ก็ไปด้วยกันกับเขาตลอด ซึ่งวันที่ก่อนเกิดเหตุก็ไปด้วยกันกับเขามาตลอด และมีช่วงนึงที่ผมมา กทม. อยู่เกือบๆ 3 อาทิตย์แต่ก็ยังมีการติดต่อคุยกันมีการพูดถึงการสนับสนุนหลายๆเรื่องอยู่ก็คุยกันมาโดยตลอดครับ
นักข่าว : ทางด้านแฟนมีความเชื่อหมอดูมากเลยหรอครับ ?
สามี : ใช่ครับ
นักข่าว : เคยชวนพี่ไปดูหมอดูด้วยกันมั้ย?
สามี : ผมเคยไป ผมก็นั่งเฉยๆ นานๆผมจะโดนหมอดูเขาทักผม บางทีตัวแฟนก็ให้หมอดูทักผมว่า เนี่ยผมเป็นงั้นเป็นงี้ เป็นเป็นนั่นเป็นนี่ มีกรรมเยอะมั่งอะไรมั่ง แต่ผมไม่ค่อยชอบอยู่ตรงนั้น ไม่ค่อยให้ใครมาทักผม หรือแม้แต่ครั้งหลังสุดที่ไปกัน ครูบาเอยก็ไม่ได้พูดถึง เพราะผมก็ไม่ได้สนใจที่จะถามแต่คู่หมั้นเขาจะคุยกันแบบเป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าจะกับทั้งหมอดูแม่หมอหรือพระที่จะมาทำนายทายทักเขา
นักข่าว : กับพระองค์นี้มีความพิเศษอะไรมั้ย?
สามี : โดยปกติคู่หมั้นกับพระมหา ห. รูปนี้ อดีตคู่หมั้นตนจะโทรไปคุยบ่อยครั้ง แต่ตนก็เข้าใจ เพราะบางครั้งเวลาที่มีปัญหาตนก็คิดว่าอดีตคู่หมั้นอาจจะต้องการคำปรึกษาหรือที่พึ่งทางใจ นอกจากนี้พระมหา ห. รูปนี้ ก็ยังเคยมาที่บ้านหลายครั้ง ทั้งมาสวดมนต์บ้าง มาทำพิธีต่าง ๆ บ้าง จนบางครั้งดึกดื่น เลยจัดห้องไว้สำหรับพระมหา ห. ซึ่งก็เป็นห้องว่างที่บ้านอยู่แล้ว
นักข่าว : แสดงว่าฝ่ายหญิงแทบจะไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยใช่มั้ย?
สามี : น้อยมาก
นักข่าว : ที่บอกพูดคุยกันนาน คุยทางไหน แชทหรือคุยสาย?
สามี : คุยโทรศัพท์ และก็ในส่วนอื่นจะคุยกันตอนไหนผมไม่รู้ แต่ระหว่างที่ผมอยู่ กทม.เนี่ยผมก็ติดต่อคู่หมั้นค่อนข้างยาก และก็มีคนมาบอกผมว่าคู่หมั้นผมแอบไปที่วัด ไปตอนกลางคืน คนที่วัดก็เห็น บางทีก็ไปคุยกันกับพระมหา ห.ในรถ อันนี้ตามที่คนที่วัดเขาพูดกันมานะ
นักข่าว : พอได้เห็นเหตุการณ์วันนั้น คู่หมั้นได้บอกมั้ย เหตุใดต้องพาพระมาที่บ้าน?
สามี : ไม่ได้พูดอะไรเลยครับ ไม่ได้คุย ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้คุย วันนั้นผมไปด้วยความที่ผมได้ข้อมูลมาและด้วยความที่ผมสงสัย และก็มีคนยืนยันว่า วันนี้พระมาที่บ้าน ผมเลยขับรถจาก กทม.มาสุโขทัย
นักข่าว : หมายความว่าตั้งแต่รับพระมหา ห.เป็นบุตรบุญธรรมตามที่ให้ข่าว มีข้อห้ามมั้ยคะ ว่าห้ามพามาที่บ้าน?
สามี : สำหรับกรณีที่ตนรับพระมหา ห. รูปนี้มาเป็นบุตรบุญธรรม เนื่องจากคู่หมั้นตนมาเล่าให้ฟังว่าพ่อแม่ของพระมหา ห. แยกทางกันอยู่ ทำให้ท่านต้องอยู่คนเดียว ตนเลยเสนอว่างั้นก็รับพระมหา ห. มาเป็นบุตรบุญธรรม แต่คู่หมั้นตนก็ปฏิเสธบอกตนรับไปคนเดียวเนื่องจากเขามีลูกอยู่แล้ว ก่อนจะไปบอกรับเป็นบุตรบุญธรรมกันที่หน้าวัดพระธาตุดอยสะเก็ด จากนั้นเวลาจะไปทำบุญ พระมหา ห. รูปนี้ก็จะไปด้วย รวมถึงแนะนำว่าควรไปทำบุญที่วัดไหนอย่างไร
นักข่าว : อะไรทำให้เราเชื่อถือในพระมหา ห. องค์นี้ ?
สามี : จริงๆ ไม่ใช่แค่พระองค์นี้ คู่หมั้นผมก็ฟังจากหมอดู คนที่ทำนายทายทัก เขาก็มาเล่าให้ฟังบ้างแต่ก็เล่าไม่หมดหรอก และพระก็มีการทำนายทายทักเหมือนกัน ว่าโยมพี่เป็นอย่างนั้นโยมพี่เป็นอย่างนี้แม้กระทั่งไปหาครูบาที่เชียงใหม่ตัวท่านก็พูดถึงเรื่องอดีตชาติให้ฟัง ก็ประมาณนั้น ถามว่าความเชื่อตรงนี้ มันทำให้เขาไปอิงก็ได้ เขาบอกคู่หมั้นผมเป็นนางห้าม ผมก็เข้าใจได้ว่านางห้ามในสมัยอดีตมันมี และตัวพระมหา ห.เองเนี่ยในอดีตชาติ เขาเคยเป็นองค์นั้นองค์นี้เป็นคนนั้นคนนี้ และก็กลับชาติมาอยู่ด้วยกัน เขาชอบพูดทำนองว่าเขาเจอละว่าใครเป็นคู่เขาในชาตินี้ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงพระมหา ห. รึเปล่า
นักข่าว : จนถึงตอนนี้คุณพี่เชื่อว่าอดีตคู่หมั้นเราโดนพระองค์นี้หลอกให้เชื่ออดีตชาติรึเปล่า?
สามี : คำว่าถูกพระหลอกเราก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ พระก็เป็นที่พึ่งทางใจตามพระพุทธศาสนาของเรา แต่ตัวคู่หมั้นผมเขาก็ไปเชื่อในสิ่งที่พระพูด ก็คือเขาค่อยๆใส่ข้อมูล ใส่ความเชื่ออะไรพวกนี้กับคู่หมั้นเราไป
นักข่าว : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงว่าทั้งคู่สมยอมกัน ?
สามี: ก็พูดอย่างนั้นก็ได้ เพราะว่าอย่างที่บอกตบมือข้างเดียวไม่ดัง และอย่างที่บอกสถานการณ์ที่เขาแอบไปหากันตอนกลางคืนที่มีคนเขาเห็น ก็ทำให้หลายคนแปลกใจว่าทำไมมาหากันดึกๆดื่นๆ
นักข่าว : จนถึงตอนนี้ได้คุยกันมั้ยในเรื่องนี้ ?
สามี: ยังไม่ได้คุยเลยครับ ก็อย่างที่บอก
นักข่าว : เขาพยายามส่งคนมาติดต่อเรามั้ย ?
สามี : มีแค่พี่น้องเขาที่ติดต่อผมมา แต่ผมก็ไม่ได้รับสายเลย
นักข่าว : ส่วนตัวอดีตพระ ติดต่อมามั้ย?
สามี : ไม่ได้ติดต่อมาครับ หลังจากวันนั้นหลบออกมาจากห้องตามคลิป เป็นการพูดกันครั้งสุดท้าย
นักข่าว : แบบนี้ยังจะรับเป็นลูกบุญธรรมอยู่มั้ย ?
สามี : ก็คงไม่แล้วละครับ มันก็คงขาดกันไปแล้วละครับ มันขาดไปตั้งแต่ ผมเป็นโยมพ่อ เรารับเขาเป็นลูกบุญธรรม แต่ดันมามีความสัมพันธ์กับคู่หมั้นเรา มันขาดกันหมดแล้วละครับ
นักข่าว : ต่อจากนี้จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายยังไง ?
สามี : ก็คงต้องปรึกษาทนายครับว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง
นักข่าว : ครอบครัวเรารู้จักกับพระมานานแค่ไหน?
สามี : ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว คู่หมั้นตนไปทอดกฐินที่วัดที่พระรูปนี้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ตอนนั้นตนยังไม่รู้จักทั้งคู่หมั้นและพระ จนกระทั่งช่วงปลายปีที่แล้วถึงต้นปีนี้ มีครูบาอาจารย์บอกว่าจะมีพระที่มีอภิญญา มีฌานจะมาช่วยกอบกู้ ให้ชีวิตดีขึ้น และ 1 ในนั้นก็มีพระรูปนี้ด้วย ตนก็ไม่รู้ว่าไปตามหากันจนเจอได้อย่างไร
นักข่าว : วันนี้พี่ยังรู้สึกรัก หรือ ห่วงใยคู่หมั้นคนนี้อยู่มั้ย ?
สามี : หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนยอมรับว่าความรู้สึกรัก และห่วงใยที่เคยมีให้ก็ต้องลดน้อยลง ตนเชื่อว่าไม่มีใครรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งผิดในทางศาสนา ยิ่งผิดหนักเข้าไปอีก
นักข่าว : อยากฝากบอกอะไรถึงอดีตคู่หมั้นมั้ยคะ ?
สามี : ไม่มีครับ ไม่มีอะไรจะฝากจริงๆ กับสิ่งมันเกิดขึ้นมันไม่รู้จะพูดคำไหนเลย