สะเทือนใจสุด “หนุ่มคู่หมั้น” เล่าเหตุถ่ายคลิปฉาว แฟนสาวนอนคู่พระมหา เชื่อสมยอมกัน เพราะฝ่ายหญิงปักใจเรื่องอดีตชาติ

สะเทือนใจสุด "หนุ่มคู่หมั้น" เล่าเหตุถ่ายคลิปฉาว แฟนสาวนอนคู่พระมหา เชื่อสมยอมกัน เพราะฝ่ายหญิงปักใจเรื่องอดีตชาติ

จากกรณี ประเด็นฉาว สะเทือนวงการสงฆ์ และวงการการเมือง ภายหลังที่เพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว โพสต์คลิป สามีรายหนึ่งตามจับชู้ ถึงบ้านพักต่างจังหวัด โดยภรรยาเป็นถึง อดีตนักการเมือง และแม่ของนักแสดงรายหนึ่ง กำลังมีความสัมพันธ์กับพระหนุ่ม ที่รับเป็นลูกบุญธรรม ช่วงที่พระมหากำลังนอนเปลือยกายอยู่กับ นาง ป. บนเตียงนอน สามีจึงได้ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ภายหลัง นาง ป. พยายามแก้ตัวให้ฝ่ายพระว่าลูกบุญธรรมมานอนค้างที่บ้าน แล้วเข้ามาคุยกันในห้องก่อนจะเข้าไปอาบน้ำเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรกันแต่อย่างใด ทำเอาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

วันที่ 11 เม.ย.67 ที่อาคารมาลีนนท์ ทางด้าน นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า ในกรณีนี้มันเป็นเรื่องของการผิดสัญญาหมั้น กฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนว่า บุคคลใดก็ตามที่อีกฝ่ายหนึ่งมาถูกกระทำ คู่หมั้นตัวเองก็สามารถเรียกค่าทดแทนกับบุคคลที่ 3 ได้ รวมถึงสามารถเรียกค่าการเลี้ยงดูต่างๆได้ และอีกทางนะครับ อีกกรณีหนึ่งในทางกลับกันถ้าที่เกิดเหตุมีการบันดาลโทสะที่ฝ่ายชายโผเข้าไปต่อยหรือทำร้ายตัวพระเอง ถามว่าทำได้มั้ย กฎหมายมีเหตุคำว่าบรรเทาโทษ ซึ่งสามารถจะมีการบันดาลโทสะสามารถที่จะทำได้

ในส่วนของหมั้นเมื่อฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้นก็จะสามารถเรียกคืนได้ รวมถึงกรณีที่พูดถึงตอนแรก สามารถที่จะฟ้องบุคคลที่ 3 ได้ การฟ้องมีอายุ 6 เดือนนับจากวันที่เรารู้ นี่คือข้อกฎหมาย

 

 

นักข่าว : หมายความว่าตัวสามีสามารถที่จะเรียกร้องได้ทั้งพระมหา ห. และอดีตคู่หมั้น

ทนายแก้ว : ถูกต้องครับ คือเรื่องนี้มันมีเรื่องของการหมั้น ก็คือมุ่งหมายที่จะสมรสกัน แต่ในกรณีนี้ ยังไม่มีการจดทะเบียนสมรส ยังอยู่ในหมวดของการหมั้นกันอยู่ มันไม่เหมือนกับชายชู้หญิงชู้ ในกรณีของการเป็นชายชู้หญิงชู้จะต้องเป็นเรื่องของการจดทะเบียน มันมี 2 เลเวล เลเวลแรกเรื่องของการหมั้น และในกรณีที่คู่หมั้นผิดสัญญาแบบนี้เรียกกับบุคคลที่ 3 ได้ คนที่มาทำกับสามีหรือคู่หมั้นเรา

นักข่าว : เรียกได้ในจำนวนเงินที่เท่าไหร่?

ทนายแก้ว : ก็แล้วแต่ค่าเสียหายที่ฝ่ายชายหรือตัวสามีกำหนด รวมถึงกรณีของหมั้นเกิดเราคิดว่าเราต้องเรียกคืน ก็สามารถที่จะเรียกคืนได้

นักข่าว : ถ้าเกิดว่าทางฝ่ายหญิงไม่คืน?

ทนายแก้ว : มันก็ต้องฟ้องร้องไปอะครับ อาจจะต้องเอาหมายศาลไปบังคับยึดทรัพย์สินคืน ตรงนี้มันก็ต้องไปว่ากัน

นักข่าว : ความผิดของพระมหา ห. จะต้องมีติดคุกติดตารางอะไรมั้ย?

ทนายแก้ว : ในกรณีนี้เมื่อกฎหมายมันไม่ได้บัญญัติไว้ ก็ต้องบอกว่าเขายังไม่มีความผิด

 

เวลาต่อมาคู่หมั้นของนักการเมืองหญิงรายนี้ก็ได้เปิดใจกับ สื่อมวลชนถึงกรณีดังกล่าวว่า รู้ระแคะระคายมาไม่ถึงเดือนที่มันมีเหตุดูผิดปกติ และผมก็ได้กลับไปที่บ้านน่าจะ 2 ครั้ง ครั้งหลังสุดที่กลับไปที่อยู่ในห้องนอนที่มีพระมหา ห. มาอยู่กับคู่หมั้น

 

นักข่าว : ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นเขาไปทำบุญหรืออะไรมั้ย ?

สามี : ก็ไปด้วยกันกับเขาตลอด ซึ่งวันที่ก่อนเกิดเหตุก็ไปด้วยกันกับเขามาตลอด และมีช่วงนึงที่ผมมา กทม. อยู่เกือบๆ 3 อาทิตย์แต่ก็ยังมีการติดต่อคุยกันมีการพูดถึงการสนับสนุนหลายๆเรื่องอยู่ก็คุยกันมาโดยตลอดครับ

นักข่าว : ทางด้านแฟนมีความเชื่อหมอดูมากเลยหรอครับ ?

สามี : ใช่ครับ

นักข่าว : เคยชวนพี่ไปดูหมอดูด้วยกันมั้ย?

สามี : ผมเคยไป ผมก็นั่งเฉยๆ นานๆผมจะโดนหมอดูเขาทักผม บางทีตัวแฟนก็ให้หมอดูทักผมว่า เนี่ยผมเป็นงั้นเป็นงี้ เป็นเป็นนั่นเป็นนี่ มีกรรมเยอะมั่งอะไรมั่ง แต่ผมไม่ค่อยชอบอยู่ตรงนั้น ไม่ค่อยให้ใครมาทักผม หรือแม้แต่ครั้งหลังสุดที่ไปกัน ครูบาเอยก็ไม่ได้พูดถึง เพราะผมก็ไม่ได้สนใจที่จะถามแต่คู่หมั้นเขาจะคุยกันแบบเป็นระยะเวลานาน ไม่ว่าจะกับทั้งหมอดูแม่หมอหรือพระที่จะมาทำนายทายทักเขา

นักข่าว : กับพระองค์นี้มีความพิเศษอะไรมั้ย?

สามี : โดยปกติคู่หมั้นกับพระมหา ห. รูปนี้ อดีตคู่หมั้นตนจะโทรไปคุยบ่อยครั้ง แต่ตนก็เข้าใจ เพราะบางครั้งเวลาที่มีปัญหาตนก็คิดว่าอดีตคู่หมั้นอาจจะต้องการคำปรึกษาหรือที่พึ่งทางใจ นอกจากนี้พระมหา ห. รูปนี้ ก็ยังเคยมาที่บ้านหลายครั้ง ทั้งมาสวดมนต์บ้าง มาทำพิธีต่าง ๆ บ้าง จนบางครั้งดึกดื่น เลยจัดห้องไว้สำหรับพระมหา ห. ซึ่งก็เป็นห้องว่างที่บ้านอยู่แล้ว

นักข่าว : แสดงว่าฝ่ายหญิงแทบจะไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลยใช่มั้ย?

สามี : น้อยมาก

 

นักข่าว : ที่บอกพูดคุยกันนาน คุยทางไหน แชทหรือคุยสาย?

สามี : คุยโทรศัพท์ และก็ในส่วนอื่นจะคุยกันตอนไหนผมไม่รู้ แต่ระหว่างที่ผมอยู่ กทม.เนี่ยผมก็ติดต่อคู่หมั้นค่อนข้างยาก และก็มีคนมาบอกผมว่าคู่หมั้นผมแอบไปที่วัด ไปตอนกลางคืน คนที่วัดก็เห็น บางทีก็ไปคุยกันกับพระมหา ห.ในรถ อันนี้ตามที่คนที่วัดเขาพูดกันมานะ

นักข่าว : พอได้เห็นเหตุการณ์วันนั้น คู่หมั้นได้บอกมั้ย เหตุใดต้องพาพระมาที่บ้าน?

สามี : ไม่ได้พูดอะไรเลยครับ ไม่ได้คุย ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้คุย วันนั้นผมไปด้วยความที่ผมได้ข้อมูลมาและด้วยความที่ผมสงสัย และก็มีคนยืนยันว่า วันนี้พระมาที่บ้าน ผมเลยขับรถจาก กทม.มาสุโขทัย

นักข่าว : หมายความว่าตั้งแต่รับพระมหา ห.เป็นบุตรบุญธรรมตามที่ให้ข่าว มีข้อห้ามมั้ยคะ ว่าห้ามพามาที่บ้าน?

สามี : สำหรับกรณีที่ตนรับพระมหา ห. รูปนี้มาเป็นบุตรบุญธรรม เนื่องจากคู่หมั้นตนมาเล่าให้ฟังว่าพ่อแม่ของพระมหา ห. แยกทางกันอยู่ ทำให้ท่านต้องอยู่คนเดียว ตนเลยเสนอว่างั้นก็รับพระมหา ห. มาเป็นบุตรบุญธรรม แต่คู่หมั้นตนก็ปฏิเสธบอกตนรับไปคนเดียวเนื่องจากเขามีลูกอยู่แล้ว ก่อนจะไปบอกรับเป็นบุตรบุญธรรมกันที่หน้าวัดพระธาตุดอยสะเก็ด จากนั้นเวลาจะไปทำบุญ พระมหา ห. รูปนี้ก็จะไปด้วย รวมถึงแนะนำว่าควรไปทำบุญที่วัดไหนอย่างไร

นักข่าว : อะไรทำให้เราเชื่อถือในพระมหา ห. องค์นี้ ?

สามี : จริงๆ ไม่ใช่แค่พระองค์นี้ คู่หมั้นผมก็ฟังจากหมอดู คนที่ทำนายทายทัก เขาก็มาเล่าให้ฟังบ้างแต่ก็เล่าไม่หมดหรอก และพระก็มีการทำนายทายทักเหมือนกัน ว่าโยมพี่เป็นอย่างนั้นโยมพี่เป็นอย่างนี้แม้กระทั่งไปหาครูบาที่เชียงใหม่ตัวท่านก็พูดถึงเรื่องอดีตชาติให้ฟัง ก็ประมาณนั้น ถามว่าความเชื่อตรงนี้ มันทำให้เขาไปอิงก็ได้  เขาบอกคู่หมั้นผมเป็นนางห้าม ผมก็เข้าใจได้ว่านางห้ามในสมัยอดีตมันมี และตัวพระมหา ห.เองเนี่ยในอดีตชาติ เขาเคยเป็นองค์นั้นองค์นี้เป็นคนนั้นคนนี้ และก็กลับชาติมาอยู่ด้วยกัน เขาชอบพูดทำนองว่าเขาเจอละว่าใครเป็นคู่เขาในชาตินี้ ผมก็ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงพระมหา ห. รึเปล่า

 

นักข่าว : จนถึงตอนนี้คุณพี่เชื่อว่าอดีตคู่หมั้นเราโดนพระองค์นี้หลอกให้เชื่ออดีตชาติรึเปล่า?

สามี : คำว่าถูกพระหลอกเราก็พูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำ พระก็เป็นที่พึ่งทางใจตามพระพุทธศาสนาของเรา แต่ตัวคู่หมั้นผมเขาก็ไปเชื่อในสิ่งที่พระพูด ก็คือเขาค่อยๆใส่ข้อมูล ใส่ความเชื่ออะไรพวกนี้กับคู่หมั้นเราไป

นักข่าว : เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงว่าทั้งคู่สมยอมกัน ?

สามี: ก็พูดอย่างนั้นก็ได้ เพราะว่าอย่างที่บอกตบมือข้างเดียวไม่ดัง และอย่างที่บอกสถานการณ์ที่เขาแอบไปหากันตอนกลางคืนที่มีคนเขาเห็น ก็ทำให้หลายคนแปลกใจว่าทำไมมาหากันดึกๆดื่นๆ

นักข่าว : จนถึงตอนนี้ได้คุยกันมั้ยในเรื่องนี้ ?

สามี: ยังไม่ได้คุยเลยครับ ก็อย่างที่บอก

นักข่าว : เขาพยายามส่งคนมาติดต่อเรามั้ย ?

สามี : มีแค่พี่น้องเขาที่ติดต่อผมมา แต่ผมก็ไม่ได้รับสายเลย

นักข่าว : ส่วนตัวอดีตพระ ติดต่อมามั้ย?

สามี : ไม่ได้ติดต่อมาครับ หลังจากวันนั้นหลบออกมาจากห้องตามคลิป เป็นการพูดกันครั้งสุดท้าย

 

นักข่าว : แบบนี้ยังจะรับเป็นลูกบุญธรรมอยู่มั้ย ?

สามี : ก็คงไม่แล้วละครับ มันก็คงขาดกันไปแล้วละครับ มันขาดไปตั้งแต่ ผมเป็นโยมพ่อ เรารับเขาเป็นลูกบุญธรรม แต่ดันมามีความสัมพันธ์กับคู่หมั้นเรา มันขาดกันหมดแล้วละครับ

นักข่าว : ต่อจากนี้จะมีการดำเนินคดีทางกฎหมายยังไง ?

สามี : ก็คงต้องปรึกษาทนายครับว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง

นักข่าว : ครอบครัวเรารู้จักกับพระมานานแค่ไหน?

สามี : ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว คู่หมั้นตนไปทอดกฐินที่วัดที่พระรูปนี้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ตอนนั้นตนยังไม่รู้จักทั้งคู่หมั้นและพระ จนกระทั่งช่วงปลายปีที่แล้วถึงต้นปีนี้ มีครูบาอาจารย์บอกว่าจะมีพระที่มีอภิญญา มีฌานจะมาช่วยกอบกู้ ให้ชีวิตดีขึ้น และ 1 ในนั้นก็มีพระรูปนี้ด้วย ตนก็ไม่รู้ว่าไปตามหากันจนเจอได้อย่างไร

นักข่าว : วันนี้พี่ยังรู้สึกรัก หรือ ห่วงใยคู่หมั้นคนนี้อยู่มั้ย ?

สามี : หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนยอมรับว่าความรู้สึกรัก และห่วงใยที่เคยมีให้ก็ต้องลดน้อยลง ตนเชื่อว่าไม่มีใครรับได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งผิดในทางศาสนา ยิ่งผิดหนักเข้าไปอีก

 

นักข่าว : อยากฝากบอกอะไรถึงอดีตคู่หมั้นมั้ยคะ ?

สามี : ไม่มีครับ ไม่มีอะไรจะฝากจริงๆ กับสิ่งมันเกิดขึ้นมันไม่รู้จะพูดคำไหนเลย

 

นักข่าว : วินาทีที่กดคลิป รู้สึกยังไง ?

สามี : ผมคิดว่าผมก็อดทนอดกลั้นกับภาพที่เห็นสิ่งที่เห็น ผมไม่ตั้งธงที่จะให้เกิดความรุนแรง แค่ไปที่จะเห็นว่าสิ่งที่มีคนให้ข้อมูลมา ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ และก็ไม่คิดจะเห็นภาพนี้ ผมไม่ต้องการที่จะใช้ความรุนแรงอยู่แล้ว แค่ต้องการให้เห็นความจริง

นักข่าว : เหตุการณ์วันนั้นจบลงยังไง?

สามี : ก็ตามที่เห็นเลย ผมอัดคลิปแล้วเขาก็พยายามเข้ามาแย่งโทรศัพท์ จนมาหยุดกันตรงบันไดและบอกเขาให้ปล่อยจะคุยอะไรกันก็ลงมาคุยข้างล่าง สภาพทั้งคู่ก็อย่างที่เห็นเปลือยกายทั้งคู่ และทั้งคู่ก็ได้ไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่และลงมาคุยกันข้างล่าง ผมก็บอกเขาว่าสิ่งที่เขาทำมันใช่มั้ย มันถูกต้องมั้ย แต่เขายืนยันว่ามันไม่มีอะไร มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด ผมก็เลยถามคู่หมั้นไปแล้วจะให้พี่คิดไปแบบไหนละ ตัวผมตอนนั้นมันข้ามความโมโหไปละ ผมกล้าพูดเลยว่าน้อยคนมากที่จะเลือกวิธีที่ผมทำอยู่

นักข่าว : แม้วันนี้ก็ยังไม่มีคำขอโทษ?

สามี : ไม่มีครับ วันนั้นผมจะพยายามให้คนนึงขอโทษผม ผมก็หันไปบอกว่าเขาสำนึกรึเปล่า ดูหน้าเขาก่อนว่าเขาอยากขอโทษผมรึเปล่า ผมเลยบอกไปว่าไม่เป็นไรไม่อยากขอโทษก็ไม่เป็นไร หลังจากนั้นเขาก็ยังไม่ให้เกียรติผม เอาผมไปว่าอย่างนั้นอย่างนี้ หาว่าผมคิดไปเอง

สุดท้ายนี้ตนคงไม่มีอะไรจะฝากถึงคู่หมั้น เพราะไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าตนอดทนอดกลั้นมากกับภาพที่เห็น และตนไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น ตนไปวันนั้นเพื่อจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่คนมาบอกตนมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

 

ทนายอนันตชัย ทิ้งท้ายไว้ว่า เรื่องนี้พระพุทธศาสนา พระธรรมคำสอนไม่ได้เสื่อม แต่มันเป็นเรื่องของหลักธรรมคำสอน ในกรณีนี้ถ้าเป็นชู้กับบุคคลธรรมก็ไม่เป็นไร แต่เป็นกรณีที่เรื่องของพระเป็นเรื่องใหญ่ คนที่ทำแบบนี้ตกนรก และเป็นการทำร้ายจิตใจ คุณเป็นนักการเมืองและบุคคลสาธารณะควรทำตัวเป็นแบบอย่าง สิ่งที่เขากระทำในแง่ศาสนาในแง่นักการเมืองมองว่าเป็นการกระทำที่รุนแรง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น