กระทรวงกลาโหมของรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อความพยายามของรัฐบาลยูเครน ที่จะสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ รวมถึงแหล่งพลังงานของรัสเซีย ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียได้ทำการโจมตีครั้งใหญ่ด้วยการใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงในระยะไกล จากทั้งทางอากาศและทางทะเล รวมถึงใช้โดรนในการโจมตีแหล่งเชื้อเพลิงของยูเครน และโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ผลที่ตามมาคือ องค์กรอุตสาหกรรมการทหารของยูเครนต้องหยุดชะงัก, การโอนกำลังสำรองไปยังพื้นที่สู้รบถูกขัดขวาง, และกระทบไปถึงการจัดหาเชื้อเพลิงให้กับหน่วยทหารของกองทัพยูเครนเช่นกัน การโจมตีบรรลุเป้าหมาย เป้าหมายทั้งหมดถูกทำลาย
ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีแห่งยูเครน ได้โพสต์ลง X ระบุว่า ตลอดทั้งคืน รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธมากกว่า 40 ลูกและโดรน 40 ลำใส่ยูเครน อย่างไรก็ดี ขีปนาวุธและโดรนบางลูก ได้ถูกระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงตกสำเร็จ แต่น่าเสียดายที่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่ชั่วร้ายอีกครั้ง ในภูมิภาคคาร์คิฟ (โดยเมืองดังกล่าวนี้ ได้ถูกรัสเซียโจมตีอย่างหนัก ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา) และยังมีการกำหนดเป้าหมายไปที่กรุงเคียฟ (เมืองหลวง), เมืองซาโปริซเซีย, และโอเดสซา, รวมถึงเมืองลวีฟที่อยู่ใกล้ชายแดนโปแลนด์ด้วย โดยผู้ก่อการร้ายรัสเซียมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆของเมือง
ทั้งนี้ การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนในครั้งก่อนนั้น ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้มีการคำนวณถึงความเสียหายที่เกิดขึ้น ณ สิ้นเดือนมีนาคมพบว่า การโจมตีดังกล่าว ได้ไปลดความสามารถในการกลั่นน้ำมันขั้นต้นของรัสเซียลงประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ รัสเซียชี้ว่า นี่เป็นการโจมตีที่ถือเป็นการก่อการร้าย แต่ยูเครนก็โต้กลับว่า การโจมตีนั่น ถือว่าสมเหตุสมผลแล้วกับที่ยูเครนต้องเผชิญมาเช่นกัน