อัลจาซีร่ารายงานวันนี้ (ศุกร์ที่ 12 เมย.) โดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายโธมัส แอนดรูส์ ผู้รายงานพิเศษว่าด้วยสถานการณ์เมียนมาของสหประชาชาติที่กรุงเทพซึ่งออกมาเปิดเผยว่ารัฐบาลสิงคโปร์ได้ขานรับเสียงเรียกร้องและรายงานของยูเอ็นปี 2023 ด้วยการสั่งกวาดล้างเส้นทางขนส่งอาวุธให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา โดยผุ้ลักลอบได้มีการขนส่งอาวุธผ่านสิงคโปร์ ซึ่งรายงานเผยว่ามีบริษัทสิงคโปร์มากถึง 138 แห่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนส่งอาวุธไปยังเมียนมาระหว่างปี 2564-2565 คิดเป็นมูลค่า 254 ล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือมากกว่า 9 พัน 200 ล้านบาท ถือเป็นแหล่งจัดหาอาวุธที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3
อย่างไรก็ตามแอนดรูส์เผยว่า หลังจากที่มีการเผยรายงาน สิงคโปร์ได้ดำเนินการกวาดล้างโดยทันที ทำให้การลักลอบขนส่งอาวุธไปเมียนมาลดลงถึง 83% ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันอย่างหนักให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา โดยขณะนี้ได้เริ่มเพลี่ยงพล้ำให้กับกองกำลังต่อต้านและเสียพื้นที่ยึดครองในเมืองสำคัญๆหลายแห่ง รวมทั้งศูนย์กลางการค้าชายแดนที่ติดกับไทย, จีนและอินเดีย
ทั้งนี้รายงานของยูเอ็นเผยว่าสิงคโปร์ถูกใช้เป็นเส้นทางในการลักลอบขนส่งอาวุธไปยังกองทัพเมียนมามานานหลายทศวรรษ การสั่งกวาดล้างของสิงคโปร์ครั้งนี้จะเป็นการบีบบังคับให้กองทัพเมียนมาต้องเปลี่ยนไปหาเส้นทางอื่นแทน รวมทั้งเส้นทางจากรัสเซีย, จีนและอินเดียที่ยังคงมีอยู่ รวมมูลค่าอาวุธที่มีการลักลอบส่งไปยังรัฐบาลทหารเมียนมามากกว่า 1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐหรือกว่า 3 หมื่น 6 พันล้านบาท โดยกองทัพใช้อาวุธที่ส่งไปในการกวาดล้างพลเรือนผู้บริสุทธิ์