รอยเตอร์สและอัลจาซีรารายงานว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (ศุกร์ที่ 12 เมย.) ชาวเมียนมาที่เมืองเมียวดีได้หอบลูกจูงหลานมารอคิวที่จุดผ่านแดนอำเภอแม่สอด เพื่อเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องจนเป็นแถวยาว นางโมโม เต็ทซาน หนึ่งในผู้ลี้ภัยวัย 39 ปีซึ่งพาลูกชายวัย 5 ขวบรอผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองเผยกับรอยเตอร์สว่าทหารเมียนมาได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดที่ชานเมืองเมียวดี โมโมเล่าว่าเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวกระเทือนมาถึงบ้านของเธอในเมียวดี เธอกลัวมากว่าบ้านจะถูกระเบิด จึงตัดสินใจพาลูกข้ามพรมแดนเข้าไทย เพราะทหารเมียนมาเข้ามาทิ้งระเบิดฝั่งไทยไม่ได้
ทหารเมียนมาได้สูญเสียฐานที่มั่นแห่งสุดท้ายที่เมียวดีเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ต้องถอนกำลังและทิ้งฐานที่มั่น ท่ามกลางความหวาดวิตกว่าทหารเมียนมาจะเปลี่ยนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลังสูญเสียทหารภาคพื้นดินที่เมียวดีในความพยายามที่จะยึดเมียวดีกลับคืน
ขณะที่อัลจาซีราวิเคราะห์ว่าการสูญเสียเมียวดีถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัฐบาลทหารเมียนมา เนื่องจากเมียวดีซึ่งแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญเพราะเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนกับไทย และเป็นที่มาของแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลทหาร ซึ่งโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาออกมายอมรับว่าสูญเสียฐานที่มั่นที่เมียวดีจริง และทหารต้องถอนกำลังเพราะวิตกเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว และว่าขณะนี้กำลังเจรจากับรัฐบาลไทยให้ช่วยส่งทหารกลับไปยังเมียนมาอย่างปลอดภัย