นักธุรกิจระหว่างประเทศ กลับมาพัฒนาบ้านเกิด ทุ่มเงิน 200 ล้าน สร้างร้านกาแฟ สไตล์ ตะวันตกผสมไทยโบราณ หวังเป็นที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน

‘ไร่แคนดู’ นักธุกิจนำเข้าสินค้าไทย-จีน อดีตเคยยากจน กลับมาพัฒนาบ้านเกิด หลังประสบผลสำเร็จในชีวิต อยากให้คนในชุมชนได้เห็นและสัมผัสสิ่งแปลกตา ทุ่มเงิน 200 ล้าน สร้างร้านกาแฟ สไตล์ โคโลเนียน (ตะวันตกผสมไทยโบราณ) หวังดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการจ้างงานคนในชุมชน

วันที่ 12 เมษายน 2567 ที่ไร่แคนดู ตำบลตรวจ อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ถนนระหว่างอำเภอศรีณรงค์ไปอำเภอสังขะ เปิดเป็นร้านกาแฟ สไตล์ โคโลเนียน ผสมโบราณ ทั้งหรูหราและคลาสสิก ในพื้นที่กว่า 17 ไร่ ของ นางจิราภรณ์ อุดชาชน อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นนักธุรกิจ นำเข้า ผลิต และจำหน่ายสินค้าประเภทพรีเมี่ยม ระหว่างไทย-จีน ที่ได้ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท สร้างสรรค์ ศิลปะตกแต่ง ที่มีกลิ่นอายของตะวันตก ดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นไทย หวังเป็นสถานที่พักผ่อนของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดสุรินทร์

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยมีประชาชนเดินทางเข้ามาสัมผัสบรรยากาสที่แปลกตา มีขนมเค้ก ครัวซ็อง และอื่นๆอีกมากมาย พร้อมกับมีอาหารสไตล์ ฝรั่ง-ไทย-จีน ให้เลือกรับประทานอีกด้วย โดยภายในตกแต่งด้วยไม้ มีโต๊ะรับประทานอาหาร ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ชั้นบนมีระเบียงให้เดินออกไปถ่ายภาพ สูดอากาศยามพระอาทิตย์ตกดินได้

นางจิราภรณ์ ได้เผยว่า ตนเองนั้น เติบโตมากจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน ต้องขุดปู ลอกปอ ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด พอวันหนึ่งตนเองประสบผลสำเร็จในชีวิต จึงย้อนคิดถึงเมื่อสมัยยังลำบาก และอยากให้คนแถวบ้านเกิด ได้มีโอกาสเหมือนตนบ้าง เดิมทีตนเองจะสร้างบ้านไว้ใช้ชีวิตในบั้นปลายกับครอบครัว แต่มาคิดอีกที่กลัวว่า จะเหงา ว้าเหว่ เพราะบ้านที่สร้างมันใหญ่เกินไป จึงเกิดแนวคิดอยากจะให้มีผู้คนแวะเวียนเข้ามา จึงตัดสินใจมาทำร้านกาแฟ แต่ร้านกาแฟมีเยอะมาก ตนอยากจะให้มันแตกต่าง จึงตัดสินใจทำ สไตล์ โคโลเนียน ผสมสมัยโบราณ (คือศิลปะการตกแต่งที่อยู่อาศัย ที่มีกลิ่นอายของตะวันตก ดัดแปลงให้เข้ากับความเป็นไทย) ทั้งหรูหราและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน

 

 

 

 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน ครัวซ็อง ตนเองก็นำเข้ามาจากฝรั่งเศษ ซึ่งเวลาตัด จะเห็นเป็นชั้นของแป้ง แต่ตนมาจำหน่ายในราคาที่จับต้องได้ ไม่แพงเลย แต่แลกมาด้วย ความสุข ที่เปรียบเสมือนกับมีพี่น้องมาเยื่ยมเยือนตลอดเวลา หากตนขายของแพง ผู้คนจะสัมผัสยาก แต่หากขายในราคาที่จับต้องได้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มาสัมผัสถึงไออุ่น และก็อยากจะให้คนในพื้นที่มีงานทำด้วย โดยที่นี่ สร้างมา 3 ปีแล้ว คนในพื้นที่ไม่ได้ไปทำงานที่อื่นเลย.

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ/ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้เจรจา MOU 44 ถามคนไทยหรือยัง เอาพลังงานหรืออธิปไตย
สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น