“สสรท.” ออกแถลงการณ์ ชี้ 2 ข้อสงสัยที่มา “กากแคดเมียม” จี้รัฐสอบเอาผิด เร่งกำจัดให้ถูกต้อง

ทั้งนี้สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย จึงข้อเสนอต่อรัฐบาล 1.ต้องเร่งสอบสวนโดยเร่งด่วนหากพบบุคคลกระทำความผิด และผู้ที่ส่วนร่วมในการกระทำความผิด ต้องได้รับการลงโทษอย่างหนัก

2.ให้รับผิดชอบรักษาคนงานที่ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมให้หายและได้สิทธิเงินทดแทน รวมทั้งชาวบ้านที่มีสารจนกว่าจะหาย และต้องดูแลการฟื้นฟูร่างกาย การเยียวยาการขาดรายได้ และ การสูญเสียโอกาสในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ

3.ต้องกำจัดกากแร่แคดเมียม รวมสารพิษอื่นๆให้ถูกวิธีอย่างดีที่สุด ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ชุมชนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต และให้ตรวจสอบโรงงานในพื้นที่ทั่วไป นิคมอุตสาหกรรมต่าง พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่ให้นักลงทุนต่างชาติเช่าที่ได้ถึง 99 ปี ว่ามีการกำจัดสารพิษทั้งหลายถูกต้องหรือไม่ ทบทวนการกำจัดสารพิษด้วยการกลบฝังซึ่งจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ คน สัตว์ สิ่งแวดล้อม ชุมซน ดิน น้ำ ป่า อากาศ

4.ให้ตรวจค้นหากากแร่แคดเมียมที่หาย ไปให้เจอ รวมทั้งที่ยังมีโอกาสซุกซ่อนอยู่รอเรื่องราวสงบลงแล้วอาจทำการขนย้ายและหลอม หากพบใครซุกซ่อนต้องมีความผิด

5.ให้ดูแล เฝ้าระวังแหล่งที่ค้นพบสารแคดเมียม และ บริเวณใกล้เคียง ทั้ง คน สัตว์ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ของชุมชน ดิน น้ำ ป่า อากาศ

6.สนับสนุน ส่งเสริม ให้องค์กรภาคประชาชน ภาคประชาสังคม สหภาพแรงงาน เข้ามามีส่วนร่วมในการ รณรงค์ป้องกัน และ การชี้เบาะแสผู้กระทำความผิด

7.ขยายบทลงโทษ พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. ๒๕๓๕ และ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.๒๕๓๕ ให้รุนแรงขึ้น ซึ่งจากกรณีดังกล่าวพบว่าโทษในส่วนของเจ้าของผู้ให้เช่าโกดังว่าตามพ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.๒๕๓๕ มีความผิดในฐานครอบครองกากแร่ที่มีการปนเปื้อนของสังกะสีและแคดเมียม มีโทษจำคุกสูงสุดเพียง 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ความเสียหายเกิดขึ้นแก่ประชาชน ชุมซน และประเทศอย่างประเมินค่าไม่ได้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอที่มีต่อรัฐบาลเป็นสิ่งที่ขบวนการแรงงานเรียกร้องมาอย่างยาวนาเพื่อให้รัฐบาลสนับสนุน ส่งเสริมการรวมกลุ่มของประชาชน ภาคประชาสังคม สหภาพแรงงาน ซึ่งถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ แต่รัฐบาล กลไกรัฐ กลับไม่สนับสนุน ส่งเสริม อย่างที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ ความเสียหายแก่ประเทศชาติ ประชาชน จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก การทุจริตจึงเกิดขึ้นในทุกวงการ ทุกอาชีพ เลวร้ายจนกลายเป็นวัฒนธรรมของประเทศ จน “ถูกกล่าวขานติดตลกว่าคนทุจริตไม่ต้องติดคุกเป็นซอฟเพาเวอร์ของประเทศ” จึงไม่สายที่จะเริ่มใหม่และทำกันอย่างจริงจัง เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมที่ไม่ดีของประเทศ ค่านิยมที่ผิดๆ เพื่อความ สงบสันติสุข ของประเทศชาติ และ ประชาชนทั้งในวันนี้และลูกหลานของเราในอนาคต