“นักข่าว” ระทึก KNU ส่งโดรนโจมตีทิ้งระเบิดห่างไทย 50 เมตร ดังสนั่นแม่สอด

“นักข่าว” ระทึก KNU ส่งโดรนโจมตีทิ้งระเบิดห่างไทย 50 เมตร ดังสนั่นแม่สอด

Top news รายงาน สถานการณ์การสู้รบในเมียนมายังร้อนระอุอย่างต่อเนื่อง ฝ่ายทหารกะเหรี่ยงแต่ละกลุ่มยังคงเดินหน้ายึดพื้นที่ต่างๆ ขณะที่กองทัพทหารเมียนมา ก็พยายามจะเข้าโจมตี เพื่อช่วงชิงพื้นที่กลับคืน โดยเฉพาะเมียวดี ซึ่งติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ของบ้านเรา

 

 

 

 

 

 

การสู้รบครั้งนี้ดูเหมือนจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีกองทัพนักข่าวไปเกาะติดอยู่ที่ชายแดนกันเป็นจำนวนมาก ทั้งสำนักข่าวไทย และสำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งท็อปนิวส์ก็เป็นหนึ่งในสำนักข่าวที่ลงพื้นที่ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยสถานการณ์เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ เรียกว่าระทึกกันสุดๆ โดยผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ รายงานจากบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทยเมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ตรึงกำลังรักษาอธิปไตยอยู่ตามแนวชายแดน ปรากฏว่าขณะที่สังเกตการณ์ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น ทางฝั่งเมียวดี ห่างจากสะพานมิตรภาพไม่ไกลมากนัก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน มีสื่อมวลชนบางสำนักได้ตั้งกล้องถ่ายเอาไว้ หลังเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น จึงได้เปิดกล้องดู ก็พบกลุ่มควันลอยขึ้นมาบริเวณตลิ่งริมแม่น้ำเมย ฝั่งเมียวดี ห่างจากจุดที่ทหารยืนรักษาการ รวมถึงสื่อมวลชน เพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น โดยมีเพียงแม่น้ำเมยกั้นกลาง หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชน ออกจากพื้นที่ดังกล่าว ย้ายไปอยู่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานมิตรภาพไทยเมียนมา แห่งที่ 2 ทันที เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย

ขณะที่ ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ ได้สอบถามไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคง เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า เสียงระเบิดที่ดังขึ้น คล้ายกับโดรนติดระเบิด ของกลุ่มกะเหรี่ยง KNU ที่บินเข้ามาหากลุ่มทหารเมียนมา 200 นาย ที่หลบซ่อนอยู่ใต้สะพานมิตรภาพไทยเมียนมา แห่งที่ 2 ซึ่งหลบซ่อนตัวมา 1-2 วันแล้ว และเป็นกลุ่มเดียวกัน ที่ทำหนังสือขอข้ามแดนมายังฝั่งประเทศไทย

สอดคล้องกับรายงานข่าวก่อนหน้านี้ ที่ รอยเตอร์ และอัลจาซีรา รายงานว่า ชาวเมียนมาที่เมืองเมียวดี ได้หอบลูกจูงหลานมารอคิว ที่จุดผ่านแดนอำเภอแม่สอด เพื่อเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จนเป็นแถวยาว โดยนางโมโม เต็ทซาน หนึ่งในผู้ลี้ภัยวัย 39 ปี ซึ่งพาลูกชายวัย 5 ขวบ รอผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง เผยกับรอยเตอร์ ว่า ทหารเมียนมาได้ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิด ที่ชานเมืองเมียวดี โมโมเล่าว่า เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว กระเทือนมาถึงบ้านของ

 

 

 

 

 

เธอในเมียวดี เธอกลัวมาก ว่าบ้านจะถูกระเบิด จึงตัดสินใจพาลูกข้ามพรมแดนเข้าไทย เพราะทหารเมียนมา เข้ามาทิ้งระเบิดฝั่งไทยไม่ได้

ทหารเมียนมาได้สูญเสียฐานที่มั่นแห่งสุดท้าย ที่เมียวดี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ทำให้ต้องถอนกำลัง และทิ้งฐานที่มั่น ท่ามกลางความหวาดวิตก ว่า ทหารเมียนมาจะเปลี่ยนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ หลังสูญเสียทหารภาคพื้นดิน ที่เมียวดี เนื่องจากพยายามที่จะยึดเมียวดีกลับคืน

ขณะที่อัลจาซีรา วิเคราะห์ว่า การสูญเสียเมียวดี ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของรัฐบาลทหารเมียนมา เนื่องจากเมียวดี ซึ่งแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญ เพราะเป็นศูนย์กลาง การค้าชายแดนกับไทย และเป็นที่มาของแหล่งรายได้สำคัญของรัฐบาลทหาร

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ไม่โกรธฉายาครม.ปี 67 มองเป็นสีสัน ลั่น "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์
"นายกฯ" อวยพรปีใหม่คนไทย ขอให้มีความสุขเรื่องใกล้ตัว บอกปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะทำเต็มที่
ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น