วันที่ 9 ก.ย. 2564 นายขวัญชัย อุตตะเวช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง เร่งปรับแผนการระบายน้ำเดือนกันยายน 2564 จากเดิม 7 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 70 ล้านลูกบาศก์เมตร (ตลอดเดือนกันยายน 2564) ระบายน้ำผ่านทางคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายลำพระเพลิง ในอัตรา 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำผ่านทางคลองธรรมชาติลำพระเพลิง ในอัตรา 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้มีมวลน้ำจำนวนมากไหลทะลักรุนแรงบริเวณปากทางระบายน้ำหน้าเขื่อน ก่อนไหลไปตามคลองชลประทานเข้าสู่ตัวเมืองปักธงชัย ระยะทาง 24 กิโลเมตร
ทั้งนี้ เป็นการปรับการระบายน้ำตามสถานการณ์ เพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำท่าที่จะไหลเข้าสู่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงในช่วงเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2564 ซึ่งอาจเกิดน้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่ง อาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำดังกล่าวจึงแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย พื้นที่ลุ่มต่ำริมสองฝั่งลำน้ำ และพื้นที่ริมตลิ่งในเขตตำบลตะขบ ตำบลลำนางแก้ว ตำบลบ่อปลาทอง ตำบลสุขเกษม ตำบลตูม ตำบลงิ้ว ตำบลนกออก ตำบลเกษมทรัพย์ ตำบลดอน ตำบลโดกไทย ตำบลตะคุ ตำบลเมืองปัก ของอำเภอปักธงชัย และตำบลพลับพลา ตำบลท่าลาดขาว ตำบลกระโทก ของอำเภอโชคชัย ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมเก็บทรัพย์สินสิ่งของไว้ที่ปลอดภัยอย่างไรก็ตาม กรณีประเมินสถานการณ์แล้วอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ให้สั่งอพยพประชาชนไปยังจุดอพยพที่ได้จัดเตรียมไว้โดยทันที
ด้านนายบัลลังก์ ไวทย์ศิรื นายอำเภอปักธงชัย เรียกหน่วยงานต่างๆประชุมด่วนหาทางรับมือน้ำที่ไหลลงมาจากเขื่อนลำพระเพลิง จากนั้นได้ลงพื้นที่บ้านสะแกราช หมู่ที่ 15 ตำบลสะแกราช อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าดูระดับน้ำและเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้าน และหาทางช่วยเหลือประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมโดยมีการอพยพประชาชน 5 ครอบครัวออกจากพื้นที่น้ำท่วม ซึ่งมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า80 เซ็นติเมตร นอกจากนี้ยังมีหญิงอายุ 89 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยจะอพยพมาอยู่ที่สถานีอนามัยสะแกราชและมีคนดูแล โดยนายอำเภอสั่งให้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขึ้นที่หน้าโรงเรียนสะแกราช โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพราน คอยอำนวยความสะดวกให้ชาวบ้าน
อย่างไรก็ตามฝากเตือนประชาชนที่บ้านอยู่ติดริมตลิ่งให้เก็บข้าวของขึ้นสู่ที่สูง เพราะเขื่อนลำพระเพลิงยังระบายน้ำลงมาด้านล่าง อย่างต่อเนื่อง และอ่างเก็บน้ำลำเชียงสาก็เต็มล้นสปิลเวย์ลงมาด้วย.
ภาพ/ข่าว ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครราชสีมา