เดอะไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า หลังจากการหารือกันหลายชั่วโมง คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะตอบสนองต่อการโจมตีของอิหร่านแต่อย่างใด แต่คาดจะกลับมาประชุมกันใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ในการประชุม นายเบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีกระทรวงสงคราม ร่วมกับผู้สังเกตการณ์ในคณะรัฐมนตรีสงคราม ได้เสนอให้ตอบโต้อิหร่าน แต่ข้อเสนอนี้ ได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากนายโยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหม, นายพลเฮอร์ซี ฮาเลวี หัวหน้ากองทัพอิสราเอล (หรือ IDF) และสมาชิกคนอื่นๆ ขณะเดียวกัน ในส่วนของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูนั้ย เมื่อพูดถึงจังหวะเวลา และลักษณะของการตอบโต้ของอิสราเอล ก็ยังไม่มีความชัดเจนใดๆออกมา
ด้านบรรดาผู้นำจากประเทศ G7 ก็ได้จัดการประชุมฉุกเฉินผ่านการประชุมทางวิดีโอ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีจอร์เจีย เมโลนี แห่งอิตาลี เป็นประธานในการประชุม โดยจุดประสงค์ของการประชุมฉุกเฉินครั้งนี้ ก็เพื่อหารือเกี่ยวกับการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธของอิหร่านต่ออิสราเอล ซึ่งก่อให้เกิดความกลัวว่า ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง จะขยายเป็นวงที่กว้างขึ้น
ภายหลังการประชุม กลุ่ม G7 ก็ได้ออกแถลงการณ์ร่วมระบุว่า พวกเราผู้นำกลุ่ม G7 ขอประณามอย่างชัดเจน บนเงื่อนไขที่รุนแรงที่สุด จากการโจมตีอิสราเอลโดยตรงและไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของอิหร่าน ที่มีต่ออิสราเอล อิหร่านยิงโดรนและขีปนาวุธหลายร้อยลูกไปยังอิสราเอล แต่อิสราเอลก็สามารถเอาชนะการโจมตีดังกล่าวได้ ด้วยความช่วยเหลือจากพันธมิตร เราขอแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและสนับสนุนอิสราเอล รวมถึงประชาชนอิสราเอลอย่างเต็มที่ และยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของเรา ต่อความมั่นคงของประเทศ
แถลงการณ์ระบุต่อว่า อิหร่านได้ก้าวไปสู่ความไม่มั่นคงของภูมิภาค และความเสี่ยงที่กระตุ้นให้เกิดการขยายตัวในระดับภูมิภาค ที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งนี้จะต้องถูกหลีกเลี่ยง เราจะทำงานต่อไปเพื่อรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์ และหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการบานปลายเกิดขึ้น ซึ่งด้วยเจตนารมณ์นี้ เราขอเรียกร้องให้อิหร่านยุติการโจมตี และเราพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมนับจากนี้ เพื่อตอบสนองต่อความคิดริเริ่มใดก็ตาม ที่จะทำให้เกิดความไม่มั่นคงต่อไป