AFP รายงานว่านายนัสเซอร์ คานานี โฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่านออกมาแถลงข่าวในวันนี้ (จันทร์ที่ 15 เมย.) โดยมีการต่อว่าบรรดาชาติตะวันตกว่าแทนที่จะมากล่าวหากล่าวโทษอิหร่านกรณีที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านส่งโดรนและขีปนาวุธกว่า 300 ลูกโจมตีเข้าไปในดินแดนอิสราเอลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาติตะวันตกควรจะโทษตัวเองและตอบคำถามประชาคมโลกว่าจะใช้มาตรการอะไรในการลงโทษอิสราเอลต่อการก่ออาชญากรรมสงครามในกาซามากกว่า คานานียังกล่าวด้วยว่าที่จริงแล้วรัฐบาลชาติตะวันตกควรที่จะยกย่องชื่นชมความอดทนอดกลั้นของอิหร่านต่ออิสราเอลในช่วงเวลา 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังจากอิสราเอลเปิดปฏิบัติการสู้รบในกาซา
ทั้งนี้ บรรดาพันธมิตรตะวันตก ต่างออกมาประณามอิหร่านที่โจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่และเป็นการโจมตีโดยตรงครั้งแรก ซึ่งอิหร่านออกมายืนยันว่าเป็นการเพียงการตอบโต้ที่อิสราเอลโจมตีสถานทูตอิหร่านในซีเรียก่อน และอิหร่านจะจบการโจมตีเพียงเท่านี้ ไม่มีต่อเนื่อง นอกจากนี้อิหร่านยืนยันว่าอิหร่านได้มีการแจ้งสหรัฐและประเทศเพื่อนบ้านในตะวันออกกลางแล้วล่วงหน้า 72 ชั่วโมง และว่าการโจมตีอิสราเอลมีเป้าหมายเพื่อป้องปรามอิสราเอลไม่ให้ทำพฤติกรรมเช่นนั้นอีก และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของอิหร่านเท่านั้น
ขณะที่บรรดาชาติพันธมิตรตะวันตกแม้จะประณามอิหร่านแต่ก็เรียกร้องอิสราเอลอย่าตอบโต้และหลีกเลี่ยงที่จะยกระดับการเผชิญหน้ากับอิหร่าน
สำหรับกรณีการยึดเรือสินค้าเอ็มเอสซี แอรีส ที่มีความเชื่อมโยงอิสราเอลในช่องแคบฮอร์มุสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น คานานีกล่าวว่าเรือลำดังกล่าวละเมิดน่านน้ำสากล และอิหร่านกำลังสอบสวนและตรวจสอบ เนื่องจากลูกเรือไม่สามารถให้คำตอบที่เพียงพอกับเจ้าหน้าที่อิหร่าน