ปรับครม. สะพัด! “ธนกร – เสี่ยเฮ้ง” บอดี้การ์ด “บิ๊กตู่” DNA “รทสช.” จ่อขึ้นแท่น “รัฐมนตรี”

“มังกรน้ำเค็ม” รีเทิร์นคั่วเก้าอี้ “รมต.”

เช่นเดียวกับเจ้าของฉายา “มังกรน้ำเค็ม” หรือ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น อีกหนึ่งสส.ที่เป็นบอดี้การ์ด “บิ๊กตู่” ที่วางมือทางการเมืองไปแล้ว “เสี่ยเฮ้ง” เคยให้สัมภาษณ์ว่า การก้าวเข้าสู่วงการการเมืองและได้ดิบได้ดีจนปัจจุบัน เพราะได้รับโอกาสจากบุคคลสำคัญทางการเมือง 3 คนนั้นคือ 1. “กำนันเป๊าะ” สมชาย คุณปลื้ม ตำนานนักการเมืองท้องถิ่นผู้ทรงอิทธิพลแห่งภาคตะวันออก 2. “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ ที่ชักชวนให้มาอยู่ใน พรรคพลังประชารัฐ และ 3. “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้มีสายตาแหลมคมเห็นในคุณค่าและความสามารถในตัว “เสี่ยเฮ้ง” จึงผลักดันให้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในทางการเมืองได้เป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน”

นั้นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ บารมีทางการเมืองของ “เสี่ยเฮ้ง” เปล่งประกายและเริ่มเบียดแซง “ตระกูลคุณปลื้ม” เพราะอย่าลืมว่าภาพจำของคนชลบุรี มองว่า “เสี่ยเฮ้ง” อยู่ใต้เงา “สนธยา คุณปลื้ม” ทายาททางการเมือง “กำนันเป๊าะ” จนวันหนึ่งถึงจุดแตกหัก “เสี่ยเฮ้ง” แยกตัวมาสร้างอาณาจักรทางการเมืองเป็นของตัวเองวางรากฐานการเมืองท้องถิ่น “กลุ่มพลังใหม่” หรือ บ้านใหม่เสี่ยเฮ้ง มีขุมกำลังนักการเมืองเป็นของตัวเอง การสยายปีกทางการเมืองดังกล่าวของ “เสี่ยเฮ้ง” ย่อมไปบดบังรัศมีเจ้าถิ่น “ตระกูลคุณปลื้ม” จนในที่สุดต้องแยกทางกัน “สนธยา” เลือกข้าพรรคเพื่อไทย ขณะที่ “เสี่ยเฮ้ง” ไปพรรค DNA “บิ๊กตู่”

การเลือกตั้ง ปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศลงเล่นการเมืองในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ “เสี่ยเฮ้ง” ยอมออกจากพรรคพลังประชารัฐ กราบลา “บิ๊กป้อม” เพื่อมาผลักดัน “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 แม้จะไม่ประสบความสำเร็จและเกิดเหตุการณ์พลิกผัน พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปจับขั้วกับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้ว ร่วมโหวต นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 “เสี่ยเฮ้ง” ไม่ติดโผ ครม.เศรษฐา 1 หลังจากนั้น “เสี่ยเฮ้ง” จึงหายหน้าหายตาไประยะหนึ่ง จนมีกระแสข่าวสะพัดไปว่า “เสี่ยเฮ้ง” น้อยใจ ที่พลาดเก้าอี้รัฐมนตรี อาจจะลาออกไปอยู่พรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล

ไม่นาน “เสี่ยเฮ้ง” ออกมาสยบกระแสข่าวดังกล่าว พร้อมกับกล่าวว่า วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติมี สส. ทั้งหมด 36 คน ซึ่งเป็นพรรคเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน นั้นถือว่าเยอะ ครั้งต่อไปต้องให้คูณ 3 หรือ ประมาณกว่า 100 คน ยืนยันว่าพร้อมที่จะแก้มือ แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มี พล.อ. ประยุทธ์ อยู่ในพรรคแล้วก็ตาม จนล่าสุดมีกระแสข่าวว่า “เสี่ยเฮ้ง” จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง ส่วนจะได้นั่งเก้าอี้ตัวเดิม กระทรวงแรงงาน หรือ กระทรวงใด

ทั้ง “ธนกร” และ “เสี่ยเฮ้ง” ต่างเป็นบอดี้การ์ด “บิ๊กตู่” จึงต้องจับตาดูว่า ในครม.เศรษฐา 2 บารมีทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” ได้ช่วยหนุนเสริมถึงได้ขึ้นแท่นเป็นรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ หรือ เป็นแค่เพียงกระแสข่าวลือเท่านั้นเอง