ผ่าชนวนระเบิดเวลาขย่มรัฐบาล แก้ “รธน.” นโยบายเรือธงส่อแป้ก ยึดคืน “ประธานสภา” สะเทือนสัมพันธ์พรรคร่วม

ผ่าชนวนระเบิดเวลาขย่มรัฐบาล แก้ "รธน." นโยบายเรือธงส่อแป้ก ยึดคืน "ประธานสภา" สะเทือนสัมพันธ์พรรคร่วม

TOP News รายงานข่าว ยังไม่รู้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีในฐานะคนจรดปากกาแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะเปิดโฉมหน้าว่าที่รัฐมนตรีหน้าเก่าไม่ตกเก้าอี้ หรือ รัฐมนตรีป้ายแดง จะเป็นใครกันบ้าง และ จะได้เข้ามาทำงานแบบมีอำนาจเต็มเมื่อไร แต่ปัญหาที่เป็นเผือกร้อนรัฐบาล ครม.เศรษฐา 2 เริ่มรุมเร้าเข้ามาแล้วพรรคฝ่ายค้านแค่รอจังหวะและโอกาสซ้ำเติมเท่านั้น

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เผือกร้อน แก้ “รธน.” – “ธปท.” ขวางนโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัล”

ไล่ตั้งแต่ประเด็นที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ประกาศหาเสียงไว้ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ปี 2566 นั้นคือ แก้รัฐธรรมนูญ ยังไปไม่ถึงไหน ถึงขนาด “นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ต้องออกมาปรามฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่จ้องถล่มเรื่องนี้ ว่า ถึงเวลานี้พรรคร่วมฝ่ายค้านควรคิดให้ดีว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 สมควรต้องแก้ไขหรือไม่ ถ้าคิดว่าสมควรจะแก้ก็ต้องแก้ เรื่องประเด็นอื่นๆ เป็นประเด็นรอง ส่วนที่ออกมาโจมตีว่าแก้เพื่อคนนั้นคนนี้ ยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่งทั้งสิ้น แต่เป็นการแก้เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่ติดกับดักรัฐธรรมนูญ

หรือ แม้แต่ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยังออกมาดักคอเช่นกัน ว่าอย่าดันทุรังแก้รัฐธรรมนูญ ต้องรอผลประชามติก่อน ถ้าประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ไม่ถึงครึ่งก็แสดงว่าประชาชนไม่อยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามไทม์ไลน์น่าจะทำประชามติ ครั้งที่ 1 ได้ช่วงเดือนกรกฎกาคม ใช้งบประมาณราว 3 พันล้านบาท

ขณะที่ระเบิดเวลาลูกถนัดมาเป็นโจทย์หินที่รัฐบาลต้องถอดสลักให้ได้ เพราะดูทิศทางลมแล้วนโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” 1 หมื่นบาทส่อแววสะดุด เพราะต้องเจอก้างขวางคอชิ้นโต นั้นคือ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ร่อนจดหมายเปิดผนึกคัดค้าน เพราะหวั่นเกรงว่าจะก่อหนี้ระยะยาว และยิ่งสุ่มเสี่ยงทางกฎหมายหากจะไปล้วงเงิน “ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์” หรือ ธกส.

เข้าทางคอการเมืองอย่าง “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ยังออกมาเย้ยภาพถ่ายหมู่ระหว่างนายกรัฐมนตรี ควงรัฐมนตรีในครม.แถลงพร้อมหน้าโชว์สื่อที่ทำเนียบรัฐบาลภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ในมุมมอง “สมชัย” มองว่าเป็นความพยายามสร้างภาพ ให้เห็นว่าทุกพรรคหนุนนโยบายแจกเงินหมื่นอย่างเป็นเอกภาพ พร้อมกับทิ้งโจทย์ให้รัฐบาลไปคบคิดหาคำตอบ อาทิ จะไปล้วงเงิน “ธกส.” ได้หรือไม่ “ซุปเปอร์แอป” ที่จะใช้แจกเงินดิจิทัล ต้องใช้เงินเท่าไร เอาเงินจากไหน หากทำเสร็จแล้วไม่ได้ใช้ ใครจะรับผิดชอบเงินที่จ่ายไป ทุกข้อกังขาจะมีความชัดเจนเดือนกันยายนโน้น การแถลงข่าววานนี้จึงไม่มีอะไรในกอไผ่

 

ยึดคืนเก้าอี้ “ประธานสภา” ระวังกระทบหนังหน้าไฟพา”ยิ่งลักษณ์”กลับปีหน้า

หรือแม้แต่ปรับ ครม.เศรษฐา 2 เริ่มส่อเค้าเห็นรอยร้าว ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับ พรรรประชาชาติ จากกระแสข่าวทวงคืนเก้าอี้ประธานสภาจาก “อาจารย์วันนอร์” แลกกับเก้าอี้รัฐมนตรีระดับ “รองนายกฯ” เป็นของกำนัล แต่เมื่อได้ยินคำตอบจาก “อาจารย์วันนอร์” พรรคเพื่อไทยต้องถอยฉากขนาดบิ๊กเนมรัฐบาลเบอร์ 1 อย่าง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลต้องชิงดับไฟเสียแต่ต้นลม ปฏิเสธข่าวเปลี่ยนตัวประธานสภา จาก “อาจารย์วันนอร์” เป็น “สุทิน คลังแสง” หรือ “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” ที่มีข่าวว่าถูกวางตัวไปทำงานสภาในตำแหน่งเก้าอี้ประธานสภา

หากคิดสูตรการเมืองเชิงคณิตศาสตร์เทียบกันระหว่าง พรรคประชาชาติ ที่มี สส.เพียง 9 คนแต่ได้เก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มี “ทวี สอดส่อง” เป็นเจ้ากระทรวง เทียบกับ “พรรคชาติไทยพัฒนา” ของ “วราวุธ ศิลปอาชา” ที่มี สส.ในกำมือถึง 10 คน ได้แค่ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เป็นกระทรวงเกรด C เทียบไม่ติดกับ กระทรวงยุติธรรม เกรดเหนือชั้นกว่า มองในทางการเมืองคงน่าน้อยใจไม่น้อย เพราะพรรคประชาชาติได้เก้าอี้ประธานสภากับ 1 เก้าอี้รัฐมนตรี

แต่อย่าลืมว่า “กระทรวงยุติธรรม” ที่ “ทวี สอดส่อง” ประจำการอยู่เหมือนนั่งทับเผือกร้อนอยู่ไม่เป็นสุข นับตั้งแต่นายใหญ่เพื่อไทยกลับมาไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียวภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ แถมยังได้รับการดูแลราวกับไข่ในหินบนชั้น 14 ตึกโรงพยาบาลตำรวจ

ทั้งยังต้องเป็นหนังหน้าไฟ รับมือกับบรรดาฝ่ายแค้นคู่ปรับเก่านายใหญ่ ล็อกเป้ารุมถล่มชั้น 14 ขัดขวางไม่ให้ไปพักโทษอยู่บ้านจันทร์ส่องหน้า แต่สุดท้าย “ทวี สอดส่อง” ฝ่าด่านมาได้อย่างรากเลือด ยิ่ง “ทักษิณ” แย้มว่า จะพาน้องสาว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างแดน กลับมาทำบุญเล่นน้ำสงกรานต์ที่เชียงใหม่ในปีหน้า ซึ่งคดีของ “ยิ่งลักษณ์” ถ้ากลับมาจริงยังเหลือโทษจำคุก 5 ปี ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว อาจจะมีดีลลับรอบ 2 เหมือนที่ “ทักษิณ” ได้รับหรือไม่

ตามสูตร “ทักษิณโมเดล” ผิดกับ “ยิ่งลักษณ์” หนทางอาจแคบกว่า เพราะติดเงื่อนไข ต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 ไม่ได้เป็นผู้สูงอายุป่วยหนักขั้นวิกฤตเหมือน “ทักษิณ” แต่ถึงที่สุดแล้วปลดล็อกได้ ขึ้นอยู่กับอำนาจที่อยู่ในมือของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดทางสะดวกให้ไปพักโทษอยู่บ้านโดยไม่ต้องติดคุก ดังนั้นเมื่อใด “ยิ่งลักษณ์” เหยียบแผ่นดินไทย ย่อมเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองต่อรัฐบาลเศรษฐาสะเทือนหนักแน่นอน

ดังนั้น รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงยุติธรรม ที่จะมาเป็นหนังหน้าไฟให้กับ “ยิ่งลักษณ์” ย่อมหนีไม่พ้น “ทวี สอดส่อง” หรือ นายใหญ่เพื่อไทย จะเลือกใช้บริการคนอื่น แต่หากจะใช้บริการ “ทวี สอดส่อง” พรรคประชาชาติต่อไป พรรคเพื่อไทยต้องรักษาสัมพันธ์ให้ยืดยาว โดยไม่แตะบัลลังก์ประธานสภาของ “อาจารย์วันนอร์” เป็นการต่างตอบแทนในฐานะยอมเป็นหนังหน้าไฟให้กับตระกูลชินวัตร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น