ปรับครม. เศรษฐา 2 นิ่งสนิท! เด็กในคาถา “นายหญิง – นายใหญ่” เก้าอี้แข็งโป้ก

“เกรียง กัลป์ตินันท์” แม่ทัพภาคอีสานสายเจ้าแม่วังบัวบานเก้าอี้แข็งโป้ก

แต่วงในแคะข่าวอินไซด์มาได้ว่า “นายกรัฐมนตรี” จะรั้งเก้าอี้เดียวบนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ไม่ถ่างขาควบกระทรวงกลาโหมตามที่มีข่าวลือหนาหูกันออกมาขย่มเก้าอี้ “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง ยังเหนียวได้ไปต่อในตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”

ส่วนเพื่อนร่วมตำนาน สส.นกแล “หมอชลน่าน ศรีแก้ว” หลุดเก้าอี้ตามข่าว ทั้ง “สุทิน” และ “หมอชลน่าน” นับเป็นต้นกำเนิดตำนานสส.นกแล จากอดีตครูบ้านนอก และ หมอชนบท เข้ามาเป็น สส.ได้โดยไร้เส้นสายในพรรค ไม่ได้สืบสายเลือดทายาทนักการเมืองบ้านใหญ่ หรือมีนายทุนพรรคหนุนหลัง เข้าวินเป็น สส.มาได้ด้วยฝีมือล้วน ๆ

ขณะที่ขุนพลข้างกายนายใหญ่ รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่ยุค “พรรคไทยรักไทย” รุ่งโรจน์ อย่าง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” จะสละเก้าอี้ “รองนายกฯ” แล้วย้ายก้นไปนั่งกระทรวงสาธารณสุข แทน “หมอชลน่าน” ที่จะได้รับภารกิจใหม่ไปคุมเกมการเมืองในสภาซึ่งเป็นงานถนัด รับมือฝ่ายค้านปะฉะดะกับพรรคก้าวไกล

เช่นเดียวกับอีกหนึ่งขุนพลบ้านจันทร์ส่องหล้า “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รั้งเก้าอี้กระทรวงคมนาคม แถมได้ควบ “รองนายกฯ” อีกตำแหน่งบัญชาการกระทรวงที่อยู่ในความดูแลของ พรรคเพื่อไทย และ พรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่เก้าอี้ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” หดเหลือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศเพียงตัวเดียว จะได้มีสมาธิทำงานเต็มเวลาพาไทยผงาดบนเวทีโลกและแก้ปัญหาต่างประเทศที่รุมเร้าเข้ามากระทบเศรษฐกิจ การเมือง และ ความมั่นคงไทย

ตามกระแสข่าวที่ว่ามันสมองฝ่ายมั่นคงยุค “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี นั้นคือ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ไม่ได้ขยับขึ้นเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมแต่อย่างใด ไม่แปลกเพราะอยู่วงนอก นายใหญ่ และ นายหญิงแห่งพรรคเพื่อไทย อาจไม่เรียกใช้บริการเพราะในพรรคเพื่อไทยมีตัวเลือกล้นพรรคอยู่แล้ว

โฟกัสไปที่ รัฐมนตรีสายอีสาน อย่าง “เกรียง กัลป์ตินันท์” ยังเหนียวกอดเก้าอี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ มท. 4 ไว้ได้ แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่า เก้าอี้ปลิว แต่ด้วยแบ็คอัพดี นายหญิงแห่งเมืองล้านนา “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ฉายาเจ้าแม่วังบัวบาน และ “เกรียง กัลป์ตินันท์” ถือเป็นหนึ่งในแม่ทัพภาคอีสานฐานเสียงสำคัญของเพื่อไทยที่สามารถยกหูหา “ทักษิณ” ได้

“เกรียง กัลป์ตินันท์” นับเป็นแม่ทัพประจำการอยู่จังหวัดอุบลราชธานี แม้ว่าเลือกตั้ง ปี 2566 ที่ผ่านฝีมืออาจไม่ตกไปบ้าง เพราะสมรภูมิจังหวัดอุบลฯ มีสส.ได้ถึง 11 ที่นั่ง แต่ค่ายเพื่อไทย กวาดมาได้แค่ 4 ที่นั่ง พลาดท่าไป 3 ที่นั่ง ให้กับ “พรรคภูมิใจไทย” พรรคคู่ปรับตลอดกาลในสมรภูมิเลือกตั้ง อันนี้พอรับได้แต่ดันไปเสียท่า พรรคโนเนม “พรรคเพื่อไทยรวมพลัง” ที่มีชื่อและโลโก้คล้าย พรรคเพื่อไทย แถมปล่อยให้ เด็กในคาถา “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เจ้าของพรรคไทยสร้างไทย คู่ปรับเก่านายหญิงแห่งเมืองล้านนา เบียดเข้าวินมาได้ แต่โดยรวมถือว่า “เกรียง กัลป์ตินันท์” ทำผลงานได้เข้าตานายหญิงและนายใหญ่ จึงได้รั้งเก้าอี้ มท. 4 ต่อไป คาดหมายกันว่า จะได้ใช้หัวโขนรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กลับไปทวงคืนแชมป์สมรภูมิรบในจังหวัดบ้านเกิดคืนกลับมา