ข่าวที่น่าสนใจ
ปิดทางบรรดานักวิ่งสายนายหญิงหรือนายใหญ่ทั้งหลายหยุดวิ่งขาขวิด ทุกอย่างต้องจบภายใน 26 เมษายนนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวลับ ลวง พลาง แย้มกันมาว่า 3 รัฐมนตรีที่หลุดพ้นวงโคจรแน่ ๆ มี 3 คน นั้นคือ หมอชลน่าน ศรีแก้ว หลีกทางให้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ขุนพลนักเลือกตั้งทำงานข้างกายนายใหญ่มายาวนานได้นั่งเก้าอี้กระทรวงสาธารณสุขไปครอบครอง ภารกิจเบื้องหน้าที่ต้องโชว์ฟอร์มทำผลงานให้เข้าตา นอกเหนือจากปั้นนโยบายโคแสนล้าน นั้นคือ ต้องไปเข็นนโยบายเรือธง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว นโยบายนี้สำคัญตรงที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั่งบัญชาการเป็นรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ สานต่อนโยบายประชานิยมยุคพ่อทำไว้ตอนนั้นเรียกว่า 30 บาทรักษาทุกโรค
ถัดมาเป็น “ไชยา พรหมา” ตามสูตรการเมืองสมบัติผลัดกันชมเหมือนเก้าอี้ดนตรีต่างตอบแทนทางการเมือง ต้องหลีกทางให้ “จิราพร สินธุไพร” สส.ร้อยเอ็ดนักการเมืองคนรุ่นใหม่ที่ได้แบ็คอัพดีจาก “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ออกตัวแรงเชียร์ให้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ “จิราพร” นับเป็นรัฐมนตรีโควตาสายอีสานถิ่นคนเสื้อแดงกล่องดวงใจนายใหญ่และพรรคเพื่อไทย
อีกคนที่น่าจะตกเก้าอี้ นั้นคือ “เจ๊แจ๋น” พวงเพ็ชร ชุนละเอียด แม้จะโคตรซี้ปึ้กกับ “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ ทายาทบิ๊กเนมเพื่อไทย “สุชาติ ตันเจริญ” นักการเมืองรุ่นลายครามเบอร์ต้นๆในพรรค แถม “เจ๊แจ๋น” ยังสนิทแนบแน่นกับ “ยิ่งลักษณ์” น้องสาว “ทักษิณ” แต่ข่าวล่ามาแรงว่า “เจ๊แจ๋น” เส้นใหญ่แค่ไหนก็ต้องเปิดทางให้ “พิชิต ชื่นบาน” ทนายคู่บุญนายใหญ่ได้เข้ามาทำหน้าที่เป็น มือกฎหมายรัฐบาล แต่ “พิชิต” ก็อย่าชะล่าใจ อาจต้องไปชิงดำกับ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สายตรงนายหญิงในภาคเหนือ เพราะเคยเป็นอดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” สามีเจ้าแม่วังบัวบานเส้นใหญ่ไม่ใช่เล่น จึงต้องให้นายใหญ่เคาะโผก็เป็นได้ว่าจะจิ้มเอาใครไว้ทำงาน
ขณะที่ขุนพลข้างกายเก้าอี้เหนียวหนึบ อาทิ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” คุมคมนาคมกระทรวงเกรด A แถมได้ควบรองนายกฯบัญชาการอีกหลายกระทรวง ส่วน “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” เหลือแค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตำแหน่งเดียว หรือ “เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” ปัจจุบันนั่งทับ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม อาจได้สลับเก้าอี้กับ “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” ลูกสาว “กำนันป้อ” หรือ นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ผู้กว้างขวางแห่งเมืองโคราชกำสส.ในมือล็อตใหญ่ มีหรือลูกสาวจะไม่เก้าอี้แข็งโป้ก
แต่เอาเข้าจริงถ้าถามใจ “เสริมศักดิ์” เคยเปรยว่า เก้าอี้รัฐมนตรีที่อยากได้ใจจะขาด ถ้าเลือกได้ถนัดงานที่กระทรวงมหาดไทยมากกว่า เพราะเคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดและเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ก็ไม่ขัดใจ นายใหญ่ จะสั่งให้ไปนั่งตรงไหนพร้อมไปแต่โดยดี หรือ “เกรียง กัลป์ตินันท์” สายเจ๊แดงนายหญิงภาคเหนือ เก้าอี้ยังเหนียวในตำแหน่งเดิม มท.4 ระดับขุนพลสายอีสาน น่าจะยังกอดเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ได้เพื่อรักษาฐานเสียงคนเสื้อแดงในภาคอีสานไว้
แต่ที่ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว นั้นคือ เก้าอี้กระทรวงกลาโหม วัดใจว่านายใหญ่ จะเอาอย่างไร และ ต้องถามใจ นายกรัฐมนตรี ว่าจะแฮปปี้ไหม ถ้าจะควบรัฐมนตรีกลาโหมอีกตำแหน่ง หรือ จะเลือกต่อวีซ่าให้ “สุทิน คลังแสง” ได้ไปต่อ จึงยังต้องลุ้นกันหืดขึ้นคอ ว่านายใหญ่จะใช้บริการคนในพรรค หรือ ไปใช้บริการคนนอก นั้นคือ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตกุนซือฝ่ายความมั่นคงยุค “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปัจจุบันวางมือทางการเมืองไปเป็นองคมนตรี แต่ถ้าดึง “บิ๊กเล็ก” ต้องฝ่าแรงต้านสูงเพราะอาจสร้างความไม่พอใจแก่บรรดาแกนนำคนเสื้อแดง หรือ สส.บางกลุ่มในพรรคที่ยังแค้นฝังหุ่น “บิ๊กตู่” ทำรัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 57
แต่คนนี้มาแน่ไม่น่าพลิกโผ นั้นคือ “พิชัย ชุณหวชิร” หากเช็กโปรไฟล์ย้อนหลังจะพบว่า เคยเป็นมือทำงานให้นายใหญ่เพื่อไทยมาตั้งแต่ตั้งยุคพรรคไทยรักไทย เคยอยู่เบื้องหลังนโยบายเศรษฐกิจสำคัญๆหลายชิ้น สนิทแนบแน่นกับ “นายกฯน้อย” หมอพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มือขวา “ทักษิณ” เป็นมันสมองสำคัญของพรรคเพื่อไทย
แว่วข่าวว่า เพื่อไทย อยากคุมทีมเศรษฐกิจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จึงอยากได้เก้าอี้ “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง” ที่อยู่ในโควตา พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” จะปิดดีลลงได้หรือไม่ คงต้องไปถาม “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” แม่ทัพพรรค จะยอมยื่นหมูยื่นแมวแลกกับ กระทรวงใด เพื่อเปิดทางโล่งให้ “ขุนคลังคนใหม่” พ่วง 2 รัฐมนตรีช่วยคนรุ่นใหม่ไฟแรง อย่าง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” และ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” โชว์ฟอร์มเข็นนโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต” 1 หมื่นบาทให้สำเร็จไม่ปล่อยให้ประชาชนกระเป๋าแฟบและรอเก้อ
หากจำกันได้ช่วงนายใหญ่เบ่งบารมีที่บ้านเกิด บิ๊กเนมพรรคเพื่อไทยพาเหรดไปให้นายใหญ่เป่ากระหม่อม หากอยากให้กระแสนิยมรัฐบาลพุ่งกระฉูดต้องแก้ปัญหาปากท้องให้ได้ ถ้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ก็ย่อมปิดจุดอ่อนรัฐบาล จึงกลายเป็นโจทย์ใหญ่ให้บิ๊กเพื่อไทยไปขอเจรจาแลกเก้าอี้ขอคุมดรีมทีมเศรษฐกิจเองก็เป็นได้ ด้วยหวังว่าที่จะพลิกสถานการณ์ดันเรตติ้งรัฐบาลฟื้นกลับมาขึ้นนำพรรคก้าวไกล
อีกไม่กี่อึดใจจะได้รู้กันโผครม.เศรษฐา 2 จะหน้าตาเป็นอย่างไรอยู่ในกำมือนายใหญ่เป็นคนกำหนด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
