ข่าวที่น่าสนใจ
หลังจากที่มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีรายชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี พบว่าทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วน จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามก่อนนำความขึ้นทูลเกล้าฯ เรียบร้อยแล้ว
สำหรับโผ “ครม.เศรษฐา 2” มีผู้ที่ให้เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ 6 คน ได้แก่
1.นายพิชัย ชุณหวชิร จะดำรงตำรองนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.คลัง (เพื่อไทย)
2.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการ รมว.คลัง เป็น รมช.คลัง (เพื่อไทย)
3 น.ส.จิราพร สินธุไพร รมช.เกษตรและสหกรณ์ (เพื่อไทย)
4.นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เพื่อไทย)
5.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ (พลังประชารัฐ)
6.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ (รวมไทยสร้างชาติ)
รัฐมนตรีเดิมที่ถูกปรับออก 4 คน ได้แก่
1.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข (เพื่อไทย)
2.นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ (เพื่อไทย)
3.นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ (เพื่อไทย)
4.นายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ (รวมไทยสร้างชาติ)
นอกจากการปรับเข้าออก ของรัฐมนตรีเศรษฐา2 แล้ว ในโควตาพรรคเพื่อไทยยังมีการสลับกระทรวงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบบริหารงาน โดยให้ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม มาดำรงตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และให้น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สลับไปนั่ง รมว.วัฒนธรรม แทน
ซึ่งกระแสข่าวการโยกย้ายมีมาก่อนหน้านี้ว่า น.ส.สุดาวรรณ ไม่สามารถคอนโทรลการทำงานของข้าราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ดีเท่าที่ควร อีกทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะต้องเป็นกระทรวงหลักในการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ จึงจำเป็นต้องหาคนที่สามารถสั่งการข้าราชการให้ทำช่วยขับเคลื่อนนโยบายได้มากำกับดูแล และพลังของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่เป็นสายตรงของนายใหญ่ ทำงานกับพรรคตั้งแต่ยุคไทยรักไทย เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตรมช.มหาดไทย เมื่อต้องรับมือกับกระทรวงการทองเที่ยวฯ ก็น่าจะขับเคลื่อนงานได้ดี
ขณะที่แหล่งข่าว เปิดเผยเบื้องลึกปมสลับกระทรวงว่า ไม่ใช่เพราะน.ส.สุดาวรรณ บริหารข้าราชการกระทรวงการท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะผลงานด้านการท่องเที่ยวโดดเด่น อย่างเช่นการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะงานMaha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 เสียงชื่นชมเป็นวงกว้าง หรือจะย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ในงานแสดงวิสัยทัศน์ Thailand Tourism 2025 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.สุดาวรรณก็โชว์การพรีเซนต์แผนงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ จนนายกฯเศรษฐาต้องยกนิ้วโป้งชม และให้คะแนน 10 เต็ม 10
สำหรับกระทรวงวัฒนธรรมแม้จะดูเป็นกระทรวงเล็ก แต่ก็ต้องรับผิดชอบภารกิจลุยนโยบาย วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ ที่ต้องขับเคลื่อน Soft Power สร้างเสน่ห์วิถีไทย ครองใจคนทั้งโลก ที่ต้องส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ทักษะ Soft Power ,การผลักดันโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก ,ผลักดัน Bangkok เมืองแฟชั่น ,ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม,ผลักดันมวยไทยสู่สากลในทุกมิติ ,ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ ซึ่งล้วนแต่เป็นภารกิจที่สำคัญไม่แพ้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ
แต่หากจะมองว่ามือใหม่อายุยังน้อยไม่มีประสบการณ์นั้น แม้ว่า รัฐมนตรีปุ๋ง อายุเพียง 41 ปี ผลงานที่ผ่านมาก็ไม่ใช่ไร้ผลงาน น.ส.สุดาวรรณ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 21 ของพรรคเพื่อไทย
จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และยังเป็นนักธุรกิจธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ จากการงานบริหารภาคเอกชนระดับประเทศและเติบโตอย่างรวดเร็ว ได้รับการยอมรับในแวดวงธุรกิจ โดยเป็น กรรมการผู้จัดการ บริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด ปัจจุบันอายุ 41ปี
น.ส.สุดาวรรณ เป็นทายาทคนโตของ วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตรมช.พาณิชย์ (กำนันป้อ เสี่ยโรงแป้งมัน) และนางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกอบจ.นครราชสีมา โดยเฉพาะศึกการเลือกตั้งที่ผ่านมา กลุ่มกำนันป้อ มีสส.จำนวน 14 คน เป็น สส.เขต 12 และสส.บัญชีรายชื่อ 2 และยังดูแลสส.ต่างพรรคอีก 6 คน รวมแล้วกลุ่มสส.สังกัดกำนันป้อ 20 คน และยังมีพลังหนุนใหญ่จากเจ้าสัวที่มีพลังหนักแน่นดั่งหินผา อีก ก็ถือว่า รมต.ปุ๋ง เป็นรัฐมนตรีมีของ ที่จะสามารถบริหารงานกระทรวงวัฒนธรรมที่ผลักดันผลงานตอบสนองงานรัฐบาลได้ดีไม่แพ้บริหารกระทรวงท่องเที่ยวแน่นอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
