การประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 เนื่องจากจะครบ 2 สัปดาห์ในวันที่ 14 ก.ย.นี้ หลังจากมีการปรับมาตรการ ประเด็นหลักของการหารือคือ การบริหารจัดการวัคซีนในเดือน ต.ค. แนวทางการฉีดวัคซีนให้เด็ก รวมถึงการปรับระดับพื้นที่ควบคุมตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเข้ามา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ได้มีมติเห็นชอบคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด พร้อมให้คงมาตรการป้องกันควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ ตามข้อกำหนดฉบับที่ 32 เดิม ถึง 30 กันยายน 2564
ทั้งนี้ ให้คงมาตรการเคอร์ฟิว ขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. รวมทั้ง คงมาตรการ Work From Home และยังคงเปิดกิจการและกิจกรรมตามเดิม แต่ยังปิดสถานบันเทิง ห้ามดื่มสุราในร้าน และเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมกำกับตามมาตรการ COVID Free Setting มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในการปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ สื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามาตรการ Universal Prevention
สำหรับ 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม ชลบุรี ฉะเชิงเทรา พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ตาก นครนายก นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี อ่างทอง
