“เลขาฯกกต.” โต้ ก้าวไกล ยันระเบียบคุมเลือกตั้งสว.ยึดตามรธน. ห้ามจูงใจลงสมัคร-ฮั้วแลกคะแนน

"เลขาฯกกต." โต้ ก้าวไกล ยันระเบียบคุมเลือกตั้งสว.ยึดตามรธน. ห้ามจูงใจลงสมัคร-ฮั้วแลกคะแนน

เลขาฯกกต.” โต้ ก้าวไกล ยันระเบียบคุมเลือกตั้งสว.ยึดตามรธน. ห้ามจูงใจลงสมัคร-ฮั้วแลกคะแนน

จากกรณีที่ นาย พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์พร้อมคลิปการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ครั้งที่ 24 ว่า กกต. ต้องเผยแพร่เอกสารแนะนำตัว สว. ทุกคน ให้ประชาชน เข้าถึงได้ ตามที่เคยสัญญาไว้ในสภาผู้แทนราษฏร เมื่อ 28 มี.ค. เนื้อหาของระเบียบ กกต. เกี่ยวกับการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ที่ประกาศออกมา “น่าผิดหวัง” เป็นอย่างมาก

ลขาฯกกต. โต้ ก้าวไกล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แม้ทุกคนทราบดีว่าการคัดเลือก สว. ครั้งนี้ยังห่างไกลจากการเลือกตั้ง แต่ระเบียบที่ “เปิดกว้าง” ต่อการมีส่วนร่วมของผู้สมัครและประชาชน จะช่วยทำให้เกิดการแข่งขันที่เสรี-เป็นธรรมมากขึ้น และช่วยทำให้ผู้สมัคร (ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือก สว.) เข้าถึงข้อมูลอย่างรอบด้านมากขึ้นเพื่อประกอบการตัดสินใจ ในทางกลับกัน ระเบียบที่ออกมากลับทำให้กระบวนการทั้งหมด “ปิดกั้น” และ “แคบลง” กว่าเดิม เช่น – ผู้สมัครแนะนำตัวได้ตามแค่เอกสารของ กกต. (ซึ่งมีพื้นที่แค่ 5 บรรทัด ในการพูดถึงประวัติ-ประสบการณ์) – ผู้สมัครห้าม post เอกสารแนะนำตัวของตนเองทางออนไลน์ (ยกเว้นส่งให้ผู้สมัครคนอื่นเป็นการเฉพาะ) – ประชาชนมีข้อจำกัดในการให้ข้อมูลหรือแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้สมัครแต่ละคน (อาจต้องแจ้ง กกต. เป็น “ผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร”?)

 

ล่าสุด วันที่ 28 เม.ย. 67 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงถึงที่มาของกฎกติกาวิธีการแนะนำตัวของการเลือกสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.ชุดใหม่ว่า สว.รัฐธรรมนูญออกแบบไว้อย่างไร ทำไมต้องแนะนำตัว ห้ามหาเสียง มันต่างกันอย่างไร โทษการแนะนำตัว กับโทษทุจริตในการเลือก การให้ความรู้ เชิญชวนคนสมัครทำได้ไหม ทำไม กกต.ออกระเบียบแนะนำตัวแบบนี้

1.สว. ตามรัฐธรรมนูญมีลักษณะอย่างไร
-วุฒิสภา “ต้องต่างจาก” สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา “เป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ” แต่ สภาผู้แทนราษฎร “เป็นสภาของนักการเมือง”
-สว.”ต้องเป็นกลางทางการเมือง ตาม ม.114 ของรัฐธรรมนูญ แต่สส. “เป็นสภาของนักการเมือง”
-สว. เป็น “สภาผู้ทรงคุณวุฒิ” จากกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ แต่ สส.เป็น “สภาของสมาชิกพรรคการเมือง”
-สว. มีที่มาจาก “การเลือก”กันเองของผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ สส. มาจาก “การเลือกตั้ง” ของประชาชน
-สว. ต้องเป็น “ผู้ทรงคุณวุฒิ คือ อายุ 40 ปีขึ้นไป มีประสบการณ์ในสาขาอาชีพ และเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งต่างจาก สส.โดยสิ้นเชิง ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่ต้องมีประสบการณ์ในสาขาอาชีพ และ เป็นนักการเมืองเต็มตัว

 

 

2.การแนะนำตัว (เลือก) และการหาเสียง(เลือกตั้ง)
ด้วยเหตุข้างต้นที่รัฐธรรมนูญออกแบบให้ สว.มีลักษณะดังกล่าว กฏหมายจึงกำหนดให้ผู้สมัคร สว. ทำได้แค่แนะนำตัว นั่นหมายความว่าห้ามหาเสียงโดยปริยาย เพราะเชื่อว่าผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองที่สมัครทุกคน มีความดี เด่น ดัง ในสาขาอาชีพของตัวเองเป็นที่ประจักษ์และทราบกันดีในวงการนั้นดีอยู่แล้ว และด้วยเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจะมี “วิจารณญานในการเลือก”ที่ถูกต้องได้เป็นอย่างดี โดยไม่มีการจัดตั้ง ฮั้วกันในการเลือก
-การแนะนำตัว คือการบอกว่าตัวเองเป็นใคร มีประสบการณ์ในกลุ่มสาขาอาชีพนั้นอย่างไร แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองมีข้อมูลในการเลือกในการเลือกกันเองแล้ว ไม่ว่าจะเลือกในกลุ่มหรือเลือกไขว้ก็ตาม
-การหาเสียง คือการหาหรือขอคะแนนนิยม โดยการโฆษณา การเสนอนโยบาย หรือการแสดงวิสัยทัศน์ของพรรคการเมืองและผู้สมัคร ดังนั้นเมื่อพูดถึงที่มาของ สว. ต้องรู้ให้จริงว่ามาจาก “การเลือก/การแนะนำตัว” อย่าไปสับสนกับที่มา สส.ที่มาจาก “การเลือกตั้ง/การหาเสียง” นั้นแสดงว่ารู้ไม่จริง หรือแกล้งไม่รู้เพื่อให้ประชาชนสับสนหรือประโยชน์ทางการเมือง

3. โทษการแนะนำตัว และโทษการทุจริตในการเลือก
-โทษของการแนะนำตัว เช่น การขอคะแนนกัน การแลกคะแนนกัน ยังไม่ซื้อเสียง ตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป ศาลฏีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าเป็นการแนะนำตัวไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ตามคำพิพากษาศาลฏีกา ที่ 5606/2562 และ ที่ 5217/2562 พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งใบดำ/ตลอดชีวิต นั้นหมายความว่า การจัดตั้ง การฮั้วก็อยู่ในลักษณะความผิดนี้ด้วย
-โทษของการทุจริตในการเลือก เช่น การซื้อเสียง รวมทั้งโทษอื่น เช่น จ้างให้คนลงสมัคร รับจ้างสมัคร สมัครโดยเอกสารเท็จ รับรองการสมัคร กลุ่มความผิดนี้ มีทั้ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งใบแดงจำคุก และเสียเงินค่าปรับด้วย ดังนั้นให้พึงระวังให้ดี

4. การให้ความรู้ การเชิญชวนลงสมัครทำได้หรือไม่ การให้ความรู้ การเชิญชวนลงสมัครโดยทั่วไปแล้วหยุดแค่ให้ความรู้ หรือเชิญชวน ลักษณะนี้โดยตัวมันเองทำได้อยู่แล้ว แต่อาจเป็นเหตุให้เป็นความผิดอื่นได้ เมื่อได้ดำเนินการต่อเนื่องจากการให้ความรู้ หรือการเชิญชวน อาทิ
-การตั้งกลุ่มเพื่อติดต่อกันไม่ว่าในช่องทางใดๆ เช่น การตั้งกลุ่มไลน์ และมีการแลกคะแนนกัน ขอคะแนนกัน การฮั้วกัน เป็นต้น
-การสร้างกลุ่มแต่มีการแนะนำตัว ไม่เป็นไปวิธีแนะนำตัวตามที่ระเบียบกำหนด เช่น การเสนอนโยบาย เป็นต้น
ทั้งนี้ ขึ้นกับข้อเท็จจริงเป็นกรณีๆ ไป

5. ทำไม กกต. ออกระเบียบแบบนี้ กกต.ออกระเบียบว่าด้วยการแนะนำตัว บนหลักการ 3 ประการ 1.เพื่อให้ได้สมาชิกวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้ ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น 2. เพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิเดินมาสมัครด้วยตัวเอง หากมีมีการจัดตั้ง การบริหารจัดการอยู่เบื้องหลัง การจัดตั้งกลุ่มทำไห้ได้ สว. ไม่เป็นอิสระ ไม่เป็นกลาง และเอาเปรียบคนตั้งใจดี3.หวังดี คุ้มครองผู้สมัคร ส่วนคนที่คิดจะไปเข้ากลุ่มจะได้คิดว่า กลุ่มนั้นจะทำผิดวิธีแนะนำตัวหรือไม่

เลขาฯกกต.ทิ้งท้ายว่า อยากเป็น สว. ต้องแนะนำตัวให้ถูก ไม่ยากเลย และเป็นธรรมกับทุกคน อย่าคิดเอาเปรียบคนอื่น ทุกความเห็นเรารับฟังมาตลอด ไม่ว่าความเห็นนั้นจะไม่อยู่บนหลักกฎหมาย หรือมีแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ แต่สุดท้ายเราก็ต้องทำตามกฎหมาย ไม่อาจทำตามความต้องการของคนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งได้

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น