“บิ๊กโจ๊ก” ย้ำไม่ได้สั่งลูกน้องปลดป้ายชื่อหน้าห้องทำงานสตช. ให้ขนแต่ของจำเป็นออกมาเท่านั้น

ขณะที่ประเด็นมีกระแสข่าวว่า จะลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. บิ๊กโจ๊กบอกว่า มีประชาชนหลายคนอยากให้ตนเองลงสมัครเป็นผู้แทนประชาชน ซึ่งตนเองขอดูรายละเอียดก่อน เพราะช่วงนี้ก็ว่าง และมองว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะได้ทำประโยชน์เพื่อประชาชน เพราะตนเองยังแข็งแรงอยู่ ยังมีพลัง และมีความคิดสร้างสรรค์ ก็อยากใช้พลังทำงานให้ประชาชน

อีกทั้งยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่เสียกำลังใจ ตนเองได้กำลังใจจากพี่น้องชาวใต้ 14 จังหวัด ที่ให้กำลังใจ และเมื่อไรที่ถูกรังแก ก็ต้องเดินหน้าต่อสู้กับความยุติธรรมให้มากขึ้น เพื่อจะให้เป็นแบบอย่างของพี่น้องชาวใต้ ซึ่งตนเองอยากฝากบอกว่าไม่ต้องมารวมตัวกันให้กำลังใจ แต่ให้กำลังใจผ่านช่องทางออนไลน์ก็พอแล้ว เพราะตนเองรับทราบ

นอกจากนี้ บิ๊กโจ๊ก ยอมรับว่า การที่ให้ตนเองออกจากราชการไว้ก่อนนั้น มีสิ่งเสียดายอยู่ เพราะยังมีภารกิจอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ทำในงานที่รับผิดชอบ ทั้งหนี้นอกระบบ การปราบปรามยาเสพติด หรือค้ามนุษย์ งานส่วนนั้นต้องชะงักไป และตนเองอยากฝากบอกพี่น้องชาวอีสานที่มาร้องเรียนว่าให้รอผมหน่อย ถ้าได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ก็จะกลับไปทำให้แน่นอน ยืนยันว่าตนเองไม่อยากได้อำนาจ แต่อยากกลับไปทำงานให้พี่น้องประชาชน อำนาจที่ได้มาก็จะทำเพื่อประชาชน และแผ่นดิน

เมื่อถามว่าทำไมยังมีประชาชนมาร้องเรียนกับตนเองอยู่ บิ๊กโจ๊กบอกว่า ประชาชนเห็นที่ไหนให้ความเป็นธรรมก็ไปที่นั่น ตนเองไม่คิดที่จะใช้ประชาชนเป็นเกราะป้องกัน ส่วนคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงชุดของ พลตำรวจเอก สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานกรรมการ ที่บิ๊กต่ายตั้งขึ้นมา ในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย.) จะมีการเรียกประชุม เพื่อกำหนดแนวทางในการสอบสวน “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมพวก 5 คน เป็นครั้งแรก บิ๊กโจ๊กบอกว่า ไม่ได้หนักใจ ให้ทำตามหน้าที่ไป และตนเองก็ได้ทำหนังสือคัดค้านกรณีคณะกรรมการบางท่านที่เป็นคู่ขัดแย้ง และตนเองเชื่อมั่นในการทำงานของพลตำรวจเอกสราวุฒิ