นางเอริน กอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กรการกุศลของครัวกลางโลกหรือเวิลด์เซ็นทรัลคิชเชน (WCK) ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซายังคงย่ำแย่ เรากำลังเริ่มต้นการดำเนินงานใหม่ด้วยพลังงาน และมุ่งเน้นไปที่การให้อาหารแก่ผู้คนให้ได้มากที่สุด เราถูกบังคับให้ตัดสินใจว่า จะหยุดจัดส่งอาหารพร้อมกันในช่วงที่ยังมีวิกฤติความหิวโหยที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง หรือยังจัดส่งอาหารต่อไปโดยรู้ว่า ความช่วยเหลือ, เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ, และพลเรือนกำลังถูกข่มขู่และสังหาร นี่เป็นการพูดคุยกันที่ยากที่สุด แต่เราก็ได้พิจารณากันทุกมุมมอง จนท้ายที่สุดแล้ว เราตัดสินใจว่า จะต้องส่งมอบอาหารต่อไป และสานต่อภารกิจของเราในการจัดหาอาหารให้กับผู้คน ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่องค์กร 7 ราย จากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล เมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้ทำให้เวิลด์เซ็นทรัลคิชเชนต้องหยุดดำเนินการลง เกิดการประณามอย่างกว้างขวาง และอิสราเอลต้องเผชิญกับการเรียกร้องจากพันธมิตรรวมถึงสหรัฐ เพื่อขอคำอธิบาย ซึ่งอิสราเอลก็ได้เปิดการสอบสวนของตนเอง และพบข้อผิดพลาดร้ายแรงเกี่ยวกับการละเมิดกระบวนการของกองทัพ จึงได้ทำการไล่เจ้าหน้าที่อาวุโส 2 นายออก รวมถึงตำหนิไปถึงผู้บังคับบัญชาอาวุโสด้วย
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเวิลด์เซ็นทรัลคิชเชน จะหยุดส่งความช่วยเหลือไปนั้น ทางองค์กรได้แจกจ่ายอาหารในฉนวนกาซาไปแล้วมากกว่า 43 ล้านมื้อ นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็น 62 เปอร์เซ็นต์ของความช่วยเหลือจาก NGO ระหว่างประเทศทั้งหมด และในการกลับมาจัดส่งอีกครั้งที่จะเริ่มในวันจันทร์นี้ ทางองค์กรจะมีการส่งรถบรรทุกเข้าไปสู่จุดผ่านแดนราฟาห์ 276 คัน ซึ่งเทียบเท่ากับอาหารเกือบ 8 ล้านมื้อ และจะส่งรถบรรทุกจากจอร์แดนไปยังฉนวนกาซาด้วย
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ก็ได้พูดคุยกันอีกครั้ง โดยเป็นการหารือเกี่ยวกับการเปิดจุดผ่านแดนเพิ่มเติม ของอิสราเอลเข้าสู่ฉนวนกาซาทางตอนเหนือ ในปลายสัปดาห์นี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในฉนวนกาซา โดยไบเดนได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ในการปรับปรุง ด้วยการประสานงานอย่างเต็มที่กับองค์กรด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้ ทั้ง 2 ยังได้หารือเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องตัวประกันที่กำลังดำเนินอยู่ด้วย