“รอง ผบ.ตร.” รับอาจสอบ “บิ๊กโจ๊ก” เอี่ยวเว็บพนันฯ ไม่ทันเกษียณ ลั่นจะคืนความยุติธรรมให้ทุกฝ่าย

"รอง ผบ.ตร." รับอาจสอบ “บิ๊กโจ๊ก” เอี่ยวเว็บพนันฯ ไม่ทันเกษียณ ลั่นจะคืนความยุติธรรมให้ทุกฝ่าย

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัย “บิ๊กโจ๊ก” และพวก เอี่ยวเว็บพนันฯ เตรียมเรียกบิ๊กโจ๊ก และพวก มาสอบ 7 พฤษภาคม นี้ Top news รายงาน

 

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก สราวุฒิ การพานิช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นประธานการประชุม เพื่อกำหนดแนวทางในการสอบสวน “บิ๊กโจ๊ก” พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมพวก 5 คน กรณีฟอกเงินเว็บพนัน โดยการประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธ์เพชร รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้ง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง พลตำรวจเอก สราวุฒิ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลังเข้าประชุมเสร็จสิ้นว่า “ได้เชิญคณะกรรมการทุกคนมาประชุมเพื่อวางกรอบการทำงาน โดยจะยึดถือเอากฎระเบียบ ก.ตร.เป็นที่ตั้ง โดยการทำงานช่วงแรกมีกรอบระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ 22 เมษายน ที่ผ่านมา ทางรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา เพื่อแจ้งข้อหาให้กับผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบ โดยคณะกรรมการมีมติแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบก่อนวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ จากนั้น จะนัดผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาสอบปากคำ ก่อนที่คณะทำงานจะสอบสวนหาพยานหลักฐาน และมีการขยายเวลาเป็นครั้งคราว แต่ต้องไม่เกิน 270 วัน และจะต้องยึดหลักในเรื่องของระเบียบข้อกฎหมาย พร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 ราย อย่าง 100%

 

ส่วนที่ พลตตำรวจเอก สุรเชษฐ์ จะยื่นคัดค้าน 1 ในคณะกรรมการ ที่เป็นคู่ขัดแย้งนั้น ก็สามารถทำได้ แต่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเป็นผู้พิจารณาว่าบุคคลที่ถูกเอ่ยถึง มีคุณสมบัติเพียงพอหรือไม่ แต่ยอมรับว่าการทำงานของคณะนี้อาจจะแล้วเสร็จไม่ทันตนเองเกษียณอายุราชการ

 

 

พลตำรวจเอกสราวุฒิ กล่าวอีกว่า ตอนแรกรู้สึกตกใจว่า ทำไมรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบให้ตนเองเป็นหัวหน้า เพราะตนเองใกล้จะเกษียณแล้ว แต่อาจจะเป็นเพราะตนเองเป็นกลาง และอาจจะมีความจำเป็นจริงๆ แต่ไม่ได้มีการพูดคุย หรือสั่งการอะไรเป็นพิเศษ ยืนยัน และขอประกาศว่า ไม่มีใครมาชี้นำตนเองได้ รวมถึงยังไม่มีการพูดคุยกับทางพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ เป็นการส่วนตัว แต่ตนเองพร้อม หากจะมีใครมาพูดคุย เพราะถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ถึงแม้จะเป็นพี่น้องร่วมสถาบัน และเคยทำงานร่วมกัน ก็จะไม่มีการช่วยเหลือ และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วน พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังมีคุณสมบัติเป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอันดับ1 อยู่หรือไม่ ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากการตรวจสอบทางวินัย และอาญา ยังไม่แล้วเสร็จ รวมถึงขณะนี้ยังไม่ถือว่าออกจากราชการแล้ว 100% เนื่องจากขั้นตอนยังไม่ครบถ้วน ส่วนในวันพรุ่งนี้ที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการแต่งตั้งนายพล จะไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แองเจิล หยิน หวดสถิติใหม่ 28 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2025 จีโน่-อาฒยา ดีสุดของไทยได้อันดับ 3  แพตตี้-ปภังกร โม-โมรียา อันดับ 4 ร่วม
"พุทธิพงษ์" หนุน "บ้านเพื่อคนไทย" ชี้ควรทำอย่างโปร่งใส กระจายโอกาสถึงผู้มีรายได้น้อยให้ครบทุกภูมิภาค
"อดีตสว.สมชาย" เผย "ท็อปนิวส์" ละเอียดยิบ ขบวนการทุจริต "ฮั้วเลือกสว." ลั่น "ดีเอสไอ" ต้องรับเป็นคดีพิเศษ
"ไทย-กัมพูชา" บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมืองปอยเปต พบคนไทยกว่า 100 คน เตรียมส่งกลับประเทศพรุ่งนี้
"จุฬาราชมนตรี" แถลงเตรียมจัดงาน "เมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย" ครั้งที่ 59 เริ่ม 18- 20 เม.ย.นี้
จนท.รวบ "หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย" หอบเงิน 15.7 ล้าน เข้าไทย อ้างเล่นพนันได้จากฝั่งปอยเปต
โผล่อีก “หมู่บ้านเขมร” จองแผ่นดินไทย อึ้ง! อุ้มลูกเดินยั้วเยี้ย ตร.เพิ่งจะจับ
งามไส้! “หนุ่มไทย” พกปืน-กระสุนใส่เต็มแม็ก คุ้มกัน “พม่าเถื่อน” เข้าเมือง
ผู้นำสหรัฐเรียกนายกฯแคนาดาว่า” ขี้แพ้”
เพจดังจับโป๊ะพรรคส้ม ขุดยับ “เท้ง-ไอซ์” นำทีมสส.ร่วมทริปกมธ. บินเกาหลีใต้ ใช้งบฯหลักล้านคาใจดูงานแน่เปล่า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น