โดยมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจ : ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะทำงานอย่างใกล้ชิด
ด้านการค้า : ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีด้านการค้าให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยจัดตั้งกลไกในระดับนโยบาย เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมในการส่งเสริมการค้าทวิภาคีและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายหารือในประเด็นนี้ต่อไป
ด้านความมั่นคงด้านอาหารและความร่วมมือฮาลาล : ฝ่ายไทยแสดงความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตร ครั้งที่ 1 ในวันที่ 7 – 8 พฤษภาคม 2567 โดยผู้นำทั้งสองได้ย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือในอุตสาหกรรมฮาลาล ผ่านความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมของประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของบรูไนดารุสซาลาม อาทิ กระทรวงการคลังและเศรษฐกิจ กระทรวงทรัพยากรพื้นฐานและการท่องเที่ยว และกระทรวงศาสนา นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้เห็นชอบที่จะหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ ในการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจด้านอุตสาหกรรมฮาลาล การพัฒนาและการส่งเสริมการส่งออกสินค้าฮาลาลด้วย
สำหรับการท่องเที่ยว : ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว รวมถึงแนวคิด Six Countries, One Destination ที่เป็นโครงการนำร่องที่ประเทศไทยเสนอเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค และยังเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินตรงระหว่างสองประเทศ และขยายเส้นทางการบินจากบรูไนดารุสซาลามมายังประเทศไทย
ด้านการลงทุน : ผู้นำทั้งสองยินดีที่คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจบรูไนดารุสซาลามมีความสนใจในการดึงดูดและอำนวยความสะดวกให้การลงทุนจากประเทศไทยในด้านอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมปิโตรเลียมปลายน้ำและปิโตรเคมี อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่บรูไนดารุสซาลาม นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองมุ่งหวังให้ทั้งสองประเทศสามารถบรรลุความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งบรูไนดารุสซาลามเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนด้วย
ด้านเศรษฐกิจดิจิทัล : สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม ทรงยินดีที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถและการแบ่งปันประสบการณ์แก่ธนาคารกลางบรูไนฯอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาระบบการชำระเงินที่รวดเร็ว (Fast Payment System: FPS) เพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนเงินและชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพด้วยค่าธรรมเนียมที่ถูกลง ส่วนนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ชื่นชมที่บรูไนฯ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการเชื่อมโยงการชำระเงินในภูมิภาค ซึ่งจะเสริมสร้างความร่วมมือทางการเงินระหว่างบรูไนดารุสซาลามกับประเทศไทยตลอดจนกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
ด้านความสัมพันธ์ระดับประชาชน นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่รัฐบาลบรูไนฯมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาไทย รวมถึงนักศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ของบรูไนดารุสซาลามในหลายด้าน รวมถึงด้านศาสนาอิสลาม ผู้นำทั้งสองยังเห็นพ้องที่จะกระชับความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในสาขาการแพทย์และการพยาบาล เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ผู้นำทั้งสองยังได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในบรูไนดารุสซาลาม บันทึกความเข้าใจระหว่างกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลบรูไนดารุสซาลามในด้านการพัฒนาโครงการหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OVOP) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรม และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยและบรูไนดารุสซาลาม
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ : ผู้นำทั้งสองแสดงความยินดีที่ประเทศอาเซียนได้ตกลงกันที่จะจัดตั้งศูนย์อาเซียนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่บรูไนดารุสซาลาม และนายกรัฐมนตรีได้ให้ความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถลงนามความตกลงเพื่อการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวได้โดยเร็ว ผู้นำทั้งสองยังมุ่งหวังที่จะเห็นความสำเร็จของการจัดตั้งศูนย์ฯ รวมทั้งบทบาทของศูนย์ฯ ในการประสานงานอย่างใกล้ชิดในภูมิภาคและการกระชับความร่วมมือในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
ส่วนความร่วมมือระดับภูมิภาค : ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการที่สำคัญในภูมิภาค และยืนยันความมุ่งมั่นที่จะรักษาความเป็นแกนกลางและความเป็นเอกภาพของอาเซียนในการส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในภูมิภาค ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของบริบทระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ในประเด็นเมียนมา ผู้นำทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกันคือ ความสงบสุข ความมีเสถียรภาพ และความเป็นเอกภาพของเมียนมา และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างกันด้วยหารือกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อบรรลุทางออกอย่างสันติ โดยผ่านกระบวนการที่เมียนมามีบทบาทนำและมีความเป็นเจ้าของ
นอกจากนี้ ฝ่ายบรูไนดารุสซาลามได้แสดงความยินดีต่อข้อริเริ่มของไทยในการยกระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมาซึ่งได้ช่วยเสริมการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อ ของอาเซียน