ทนายอนันต์ชัย โพสต์เฟซบุ๊ก ฟาดกลับ ทนายธรรมราช มือกฎหมาย ลัทธิเชื่อมจิต อาจารย์น้องไนซ์ Top news รายงาน
วันที่ 29 เม.ย.2567 กรณีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความครอบครัวของเด็กชายที่กลุ่มผู้สนับสนุนเรียกว่า “อาจารย์น้องไนซ์” เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล ในกรณีที่สื่อสารมวลชน ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของน้องไนซ์ และนำเสนอเนื้อหาอันเป็นเท็จ จนเป็นเหตุให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาน้องไนซ์ และครอบครัว ซึ่งเป็นการทำให้สังคมเข้าใจผิด และขอให้มีการตรวจสอบ ควบคุมสื่อในการนำเสนอข่าวอาจารย์น้องไนซ์ ในเชิงบิดเบือน ทำให้ถูกดูถูกเกลียดชัง
ล่าสุด วันนี้ ( 29 เม.ย.) มีรายงานว่า นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง ได้ออกมาโพสต์ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยการติดแฮชแท็ก #ลัทธิเชื่อมจิต เข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่ !!! พร้อมระบุว่า
ได้รับฟังข้อมูลข่าวสารว่า มีทนายท่านหนึ่งที่ไปร้องนายกรัฐมนตรีจี้ให้ตรวจสอบสื่อมวลชน-รายการ นำเสนอเรื่องราวเด็กชาย ๘ ขวบ #เชื่อมจิต ชี้สร้างความแตกแยก ทำสังคมรุมโจมตีเด็กและครอบครัวนั้น
ผมถามว่า “ #ท่านมีความชอบธรรมที่จะไปร้องเรียนสื่อมวลชนหรือ ?”
นายกรัฐมนตรีและทีมงานฝ่ายกฎหมายคงทราบว่าเรื่องนี้กระทบต่อ “ #พระธรรมคำสอนที่เป็นหลักการในพระพุทธศาสนาเถรวาทดั้งเดิม” โดยคณะบุคคลกลุ่มหนึ่งที่พยายาม “ #บิดเบือนคำสอนและกล่าวตู่พระพุทธเจ้าอย่างไม่มียางอาย”
#ส่วนสื่อมวลชน ที่ออกมานำเสนอข่าวโดยเชิญผู้รอบรู้พระไตรปิฎกและข้อมูลวิชาการทางพุทธศาสนามาให้ข้อมูลแก่ประชาชนทั่วประเทศได้พิจารณาและนำไปเปรียบเทียบว่า การกระทำของกลุ่มบุคคลที่อ้างว่า #เด็กเชื่อมจิต ได้นั้นเชื่อถือได้หรือไม่เพียงใดนั้น เป็นการที่สื่อมวลชนในประเทศไทยทำหน้าที่ “ สื่อมวลชนที่ดีในการนำเสนอข่าวในมิติต่างๆ รอบด้าน นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์ตามข้อมูลหลักฐานทางพระไตรปิฎก เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาเถรวาท อันจะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน โดยเฉพาะต่อชาวพุทธในประเทศไทยและทั่วโลกที่นับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นรัตนะสูงสุด” #เป็นการเสนอข่าวโดยชอบด้วยสามัญสำนึกและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อ มิใช่เป็นการนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมแต่อย่างใด
แต่กลุ่มบุคคลที่อ้างตนว่า เป็นผู้วิเศษต่างหากที่เป็นผู้บิดเบือนสัทธรรม สร้างคำสอนผิดๆ และกล่าวอ้างพระพุทธเจ้าอย่างไร้สามัญสำนึก และสร้างวิวาทะให้เกิดความแตกแยกในสังคมชาวพุทธที่ขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ทำให้พี่น้องชาวพุทธในประเทศไทยได้รับความเสียหาย จนเป็นภัยร้ายแรงต่อพุทธเถรวาทที่ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายโดยความร่วมมือทั้งภาครัฐ ประชาชนชาวพุทธ พี่น้องสื่อสารมวลชน และคนไทยทุกภาคส่วนหรือไม่