กังขา “ธนาธร” เข็น สว.ส้มเข้าสภาไปเลือกเครือข่ายตัวเองเข้าไปแฝงตัวในองค์กรอิสระ?
ฟังคำพูด “ธนาธร” ที่กล่าวไปเช่นนั้น ตีความได้ว่ายังหลอน “พล.อ.ประยุทธ์” จะกลับมาเล่นการเมืองใช่หรือไม่ เพราะตัวเองก็ใกล้พ้นโทษแบนตัดสิทธิทางการเมืองจากคดียุบพรรคอนาคตใหม่เข้ามาทุกขณะเช่นกัน
ดังนั้น “ธนาธร” ต้องจูงจมูกสว.ส้มเข็นเข้าสภาหินอ่อนให้ได้อย่างน้อย 70 คน หรือ 1 ใน 3 ของ 200 คน เพื่อให้ได้สิทธิ์แก้รัฐธรรมนูญ ส่วนเสียงที่เหลือหายห่วงพรรคก้าวไกล ร่างทรง “ธนาธร” รอรับลูกอยู่แล้วในสภาล่าง การเคลื่อนไหวรณรงค์อัดฉีดแคมเปญของ “ธนาธร” เข้าข่าย ชี้นำ ทางการเมืองให้ สว.เข้าไปทำอะไรในสภาหากได้รับการรับเลือก ใช่หรือไม่
เพราะอย่าลืมว่า บทบาทหน้าที่ของ สว.ต้องไม่เป็นนอมินีหรือร่างทรงรับใช้พรรคการเมืองนักการเมือง นี่คือ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่ “ธนาธร” คือ นักการเมืองเป็นเนื้อเดียวกับพรรคก้าวไกล เอาแค่เรื่องนี้ก็ผิดเต็มประตูแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า “ธนาธร” ยังคงแสดงอาการดื้อแพ่งไม่แยแสกฎเหล็กกกต.แต่อย่างใด
เพราะเป็นไปได้หรือไม่ว่า “ธนาธร” เห็นช่องทางว่าหลายตำแหน่งองค์กรอิสระที่ถือดาบอาญาสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายฝ่ายการเมืองหลายเก้าอี้ใกล้หมดวาระลง มองในทางการเมือง “ธนาธร” ต้องการให้ สว.ส้มที่เป็นพรรคพวกตัวเอง เข้าไปจิ้มเลือกเอาใครมาเป็นฝ่ายตนใช่หรือไม่
อาทิ “กกต.” ก้างขวางคอชิ้นโต คณะก้าวหน้า ขัดขวางห้ามไม่ให้แนวร่วมหาเสียงเลือกสว.ได้ตามอำเภอใจ เพราะ “กกต.” ถือดาบรอฟันแจกใบแดงแก่ผู้สมัครที่หัวหมอเล่นตุกติกเลือก สว. นี่ยังไม่รวมถึง “กกต.” เป็นโจทย์เก่าทำเรื่องยุบพรรคชงศาลรัฐธรรมนูญปิดเกมพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล
หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.กำชะตาร่อแร่ของ 44 สส.พรรคก้าวไกล ทำผิดจริยกรรมเพราะดันไปลงชื่อยกเลิกมาตรา 112 สมคบคิดคดีล้มล้างการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับก๊วน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” โทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิตทางการเมืองอย่างต่ำ 10 ปี ชะตากรรม 44 สส.พรรคก้าวไกลเลยต้องคอพาดเขียง
หรือ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เจ็บแค้นที่เป็น “เพชฌฆาต” คดียุบพรรคอนาคตใหม่ ปี 2563 และ คดียุบพรรคก้าวไกล ที่งวดเข้ามาทุกทีขณะ แม้จะยืดลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้ “ก้าวไกล” ออกไปอีก 30 วันไปทำคำชี้แจงแก้ต่างคดีล้มล้างการปกครองฯ สารตั้งต้นคดียุบพรรค แต่เชื่อว่าอีกไม่นานเกินรอราว ๆ 1-2 เดือนนี้ พรรคก้าวไกลถึงกาลอวสานแน่นอน
ยังมีอีกหลายองค์กรอิสระที่ “ธนาธร” อยากให้เครือข่ายส้มเข้าไปแฝงตัวใช่หรือไม่ อาทิ ศาลยุติธรรม , ศาลปกครอง , ผู้ตรวจการแผ่นดิน , คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน , คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ล้วนเป็นองค์กรอิสระที่ สว.มีอำนาจในมือคัดเลือกคนที่เหมาะสมเข้าไปทำงาน นี่คือเหตุผลทำไม “ธนาธร” จึงอยากจูงจมูก สว.ส้มเข้าสภาจะได้เข้าไปเลือกแนวร่วม คณะก้าวหน้า ไปฝังตัวอยู่ตามองค์กรอิสระต่าง ๆ ที่ถือดาบอาญาสิทธิ์ เป็นพรรคพวกของตนเองใช่หรือไม่
นี่แหละทำไม กกต. จึงไม่ยอมปล่อยฟรีหาเสียงเลือกสว.ได้ตามอำเภอใจอย่างที่ “ธนาธร” ต้องการ ฉะนั้น “ความเป็นกลาง” จึงเป็นหัวใจของการมีวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ดังนั้นใครท้าทายกฎเหล็ก กกต. ชี้นำ หรือ ฮั้ว เลือก สว. ระวังตัวไว้ “กกต.” คาดโทษหนักใครอยากลองดีกฎเหล็ก กกต.เชิญทำได้ตามสบายเตือนแล้วไม่ฟังระวังโดนใบแดง!