“กอ.รมน.ภาค 4 สน.” รายงานคืบหน้า จนท.ปัตตานี เข้าวิสามัญ 2 คนร้าย หลังปิดล้อมเจรจาไม่เป็นผล ถูกเปิดฉากยิงใส่ก่อน

"กอ.รมน.ภาค 4 สน." รายงานคืบหน้า จนท.ปัตตานี เข้าวิสามัญ 2 คนร้าย หลังปิดล้อมเจรจาไม่เป็นผล ถูกเปิดฉากยิงใส่ก่อน

“กอ.รมน.ภาค 4 สน.” รายงานคืบหน้า จนท.ปัตตานี เข้าวิสามัญ 2 คนร้าย หลังปิดล้อมเจรจาไม่เป็นผล ถูกเปิดฉากยิงใส่ก่อน

ข่าวที่น่าสนใจ

 

วันที่ 2 พ.ค.67 มีรายงานว่าจากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมาย เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบบุคคลตามหมายจับ ในพื้นที่ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี โดยได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวภาคประชาชนว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาพักหลบซ่อนในพื้นที่ ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านเช่า จึงได้จัดกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าทำการตรวจสอบ และนำมาซึ่งการเข้าบังคับใช้กฎหมายในวันนี้

 

 

 

 

โดยก่อนเข้าบังคับใช้กฎหมายได้มีการอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ มีการเจรจาโดยเชิญผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ และผู้นำศาสนา มาพูดคุยเพื่อให้ผู้ต้องสงสัย ออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลา 18.00 น.คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยิงตอบโต้ เพื่อเป็นการป้องกันตัว

 

 

 

 

เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านเช่าดังกล่าว พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ

1.นายมะซอบรี บาเหะ ภูมิลำเนาจังหวัดยะลา

2.นายอัสฮาร์ เจะเลาะ ภูมิลำเนาจังหวัดปัตตานี ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน 10 เข้าทำการเก็บวัตถุพยานและตรวจสอบหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพิ่มเติม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

 

 

ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และญาติของผู้เสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว พร้อมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กทม.เปิดศูนย์รับมือ 7 วันอันตราย สงกรานต์ 196 จุด พร้อมลุยภายใต้มาตรการ 5 ป.
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เข้ารับโล่เกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติคนดีศรีเมืองชล สาขาผู้ทำคุณประโยชน์และสร้างชื่อเสียงแก่จังหวัดชลบุรี
ถนนสายเอเชีย ช่วงจ.พระนครศรีอยุธยา ปชช.ทยอยเดินทางมุ่งสู่ภาคเหนือ รถเริ่มมากแต่ยังคล่องตัว
จีน-อียูนัดประชุมสุดยอดเดือนกรกฎาคม
จีนสู้กลับสหรัฐสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 125%
ญี่ปุ่นเล็งส่งทีมเศรษฐกิจไปเจรจาสหรัฐสัปดาห์หน้า
อั้นไว้ก่อน ค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลดอีก 30 สต. ยกเว้นดีเซลคงเดิม
"โฆษกอสส." แจงยึดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด กทม.ต้องจ่ายหนี้ "รถไฟฟ้าสีเขียว" ถ้าไม่มีเหตุควรอุทธรณ์
คึกคัก! ปชช.ทยอยเดินทางมุ่งหน้าภาคเหนือ ถนนพหลโยธิน ช่วงจ.นครสวรรค์ รถเริ่มหนาแน่น
ญาติเศร้าทำพิธีเชิญวิญญาณ คนงานเมียนมา หลังพบร่างแล้ว 4 ราย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น