ฝ่ายแค้นหมายหัว 2 “รมต.ล่อเป้า” จองกฐิน “พิชัย” แบกความหวังนโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัล” จ้องเลื่อยขา “รมต.” มีมลทินพ้นเก้าอี้มือกฎหมายรัฐบาล

ท้าท้าย”ขุนคลังใหม่”แบกความหวังนโยบายเรือธง”พท.”ทำสำเร็จลบคำสบประมาสได้หรือไม่?

คิวถัดไป “นายใหญ่” เตรียมบุกไปภาคอีสานฐานเสียงพรรคเพื่อไทย ล็อควันเวลาและสถานที่ไว้แล้วว่าจะไป จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยชนะขาดลอยได้ 12 ที่นั่ง จากทั้งหมด 16 ที่นั่งเกือบชนะยกจังหวัด ส่วนพรรคชาติพัฒนาของ “สุวัจน์” คว้าน้ำเหลวไม่ได้ สส.สักที่นั่งเดียว ในทางการเมืองเริ่มเห็นแวว ว่า “สุวัจน์” กับ “ทักษิณ” ควงกันไปเที่ยวภูเก็ตและเตรียมไปหม่ำข้าวกันที่โคราช กำลังเปิดดีลลับทางการเมืองกันใช่หรือไม่

ระหว่างนายใหญ่เดินสายฉุดเรตติ้งพรรคเพื่อไทย แต่ในครม.เศรษฐา 1/1 กำลังเผชิญปัญหา “รัฐมนตรีล่อเป้า” ให้ฝ่ายตรงข้ามดาหน้ากันออกมาถล่ม นั้นคือ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรีควบกระทรวงการคลัง แบกความหวังของรัฐบาลต้องนำพานโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาท” ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้และต้องไม่ทำให้ประชาชนหวังลม ๆ แล้ง ๆ

คนที่ 2 คือ “พิชิต ชื่นบาน” จากทนายประจำตัวนายใหญ่ ผงาดเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังไม่ทันได้ตั้งหลักทำงานโชว์ฟอร์มต้องมาสะดุดขาตัวเองจากไปรับงานนายใหญ่เป็นทนายหน้าหอ จนต้องตกเป็นจำเลยในคดีถือถุงขนมขึ้นศาลจนกลายเป็นชนักติดหลังให้บรรดาฝ่ายตรงข้ามพาเหรดกันออกมาเลื่อยขาเก้าอี้ จึงต้องจับตาดูอนาคตรัฐมนตรีใหม่แกะกล่อง 2 ท่านนี้ พาตัวเองเอาตัวรอดได้หรือไม่

เป้าถล่มแรกที่ฝ่ายค้านจองกฐิน คือ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ขาประจำที่รอขย่มเก้าอี้ ขุนคลัง 1 ซึ่งมักจะออกมาวิจารณ์อย่างเนือง ๆ อาทิ “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” เคยปรามาสว่าแจกเงินดิจิทัลนโยบายเรือธงของรัฐบาลไม่ใช่พายุหมุนฉุดเศรษฐกิจให้เติบโตแบบก้าวกระโดดแต่เป็นเพียงลมพัดโชยเท่านั้น

หรือแม้แต่ “คุณหญิงหน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย รู้กันดีว่ายืนฝั่งตรงข้ามรัฐบาล “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ยังถึงกับเห็นว่า ควรแจกเงินสดยัดเงินใส่ “เป๋าตัง” แบบรัฐบาล “บิ๊กตู่” ทำแจกผ่าน “นโยบายคนละครึ่ง” ที่ทยอยแจกอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจชาวบ้านร้านตลาดหาบเร่แผงลอยได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า แต่หาก “แจกเงินดิจิทัล” แม้จะแจกตูมเดียว 1 หมื่นบาท แต่ต้องเอาเงินดิจิทัลไปแลกเป็นสินค้า หวั่นเกรงว่าจะเข้าทางเจ้าสัวเสียมากกว่า ขณะที่ “กรณ์ จาติกวณิช” อดีตขุนคลังหนึ่งในกูรูเศรษฐกิจ ยังฟันธงล่วงหน้าไว้เลยว่ารัฐบาลไม่สามารถกู้เงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส.1 ใน 3 แหล่งเงิน 5 แสนล้านบาทไม่มีทางทำได้ เพราะผิดวัตถุประสงค์และข้อกฎหมาย