“ทนายอนันต์ชัย” ยันเอาผิดก๊วนเชื่อมจิต ย้ำลัทธิบิดเบือนหลักพุทธศาสนา รับไม่ได้ใช้เด็กหาผลประโยชน์

"ทนายอนันต์ชัย" ยันเอาผิดก๊วนเชื่อมจิต ย้ำลัทธิบิดเบือนหลักพุทธศาสนา รับไม่ได้ใช้เด็กหาผลประโยชน์

Top news รายงาน วันที่ 2 พ.ค. 67 ทีมข่าวท็อปนิวส์ ได้รับการเปิดเผย จากนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง และ ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เกี่ยวกับสาเหตุที่ ต้องดำเนินคดี ขบวนการสร้าง “ลัทธิเชื่อมจิต” ว่า เนื่องจากตนเอง เป็นประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ซึ่งมีพันธกิจ ที่จะต้องปกป้องพิทักษ์ไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ตามวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งมูลนิธิ 9 ข้อ ที่ ต้องการดูแล บำรุงรักษาพระพุทธศาสนา ป้องปรามกำจัด พุทธบริษัท 4 ที่จะทำลายพระพุทธศาสนา

 

สำหรับลัทธิเชื่อมจิต นั้นเริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เนื่องจาก แอบอ้าง บิดเบือนคำสอน ในพระพุทธศาสนา โดยอ้างว่ามีการสอนธรรมในสมาธิ ตามหลักอาเนญชสมาธิ ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะ นับตั้งแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ออกผนวช จนกระทั่งบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ แล้วเสด็จออกโปรดเวไนยสัตว์ ล้วนเป็นการจาริก ไปตามความนิยมและเทศนาสั่งสอนเพื่อปลดเปลื้องสัตว์ให้ละมิจฉาทิฏฐิ หันมาประพฤติปฏิบัติ ตามหลักอริยสัจ4 เพื่อนำตนเองสู่ความหลุดพ้นคือพระนิพพาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับ อาเนญชสมาธิ นั้นมีบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก ว่า เป็นสภาวะของการเสวยวิมุตติสุข ในองค์ฌาน ไม่ใช่การพูดคุยสั่งสอนกันในสมาธิอย่างที่ลัทธินี้แอบอ้าง การที่คนจำนวนมาก หลงเชื่อและพากันไปให้ เจ้าลัทธิซึ่งเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบใช้ 2 นิ้วจิ้มที่หน้าผากเพื่อเปิดจักกะสู่การหยั่งรู้ จึงไม่ใช่ความเป็นจริงอีกทั้งลักษณะท่าทางการเชื่อมจิตที่เจ้าลัทธิ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางจิ้มที่หน้าผาก ก็เป็นลักษณะท่าทางที่เลียนแบบมาจากการ์ตูนดังเรื่องหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีการกล่าวอ้างพระสัทธรรม คำสอนขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้ามาสั่งสอนผู้คน และอ้างว่าตนเองเป็นบุตรของพระพุทธเจ้านั้น เป็นการกล่าวอ้างเกินเลย และไม่เป็นความจริง เพราะพระพุทธเจ้า ทรงดับขันธปรินิพพาน ไปนานแล้วไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสารอีก จึงไม่มีบุตร หรือภรรยา หรือ เกี่ยวพันธ์กับใครได้ จึงเป็นการแอบอ้างลอยๆเพื่อยกตนเองขึ้นมาตีเสมอพระพุทธเจ้า

 

 

ทนายอนันต์ชัย ยังกล่าวต่อไปว่า สำหรับประเด็นที่ เจ้าลัทธิ อ้างว่าตนเป็นพระอริยบุคคลระดับอนาคามี นั้น เป็นไปไม่ได้เพราะคำว่าอนาคามี คือพระอริยบุคคลที่ละกิเลส ได้ระดับหนึ่งซึ่งเมื่อตายจากความเป็นมนุษย์ ก็จะไปเกิดเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาส และสำเร็จอรหันต์ในที่นั้น ไม่สามารถกลับมาเกิดได้ นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่า ตนจุติจากพญานาค ชั้นจาตุมหาราชิกา พ่อของเด็กเจ้าลัทธิเป็นท้าวจตุโลกบาล ส่วนแม่ก็เป็นเทพในสวรรค์ชั้นนิมมานรดี ที่ต่างจุติลงมาสอนธรรม ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างที่เกินเลย เป็นการกล่าวอ้างบิดเบือน เพราะหลักคำสอนที่แท้จริง ต้องการให้ละ โลภ โกรธ หลง แต่เท่าที่เห็น ปรากฏว่าคุณยังเต็มไปด้วย โลภ โกรธ หลง ยังออกมาตอบโต้ กลุ่มที่เห็นต่างอยู่เป็นระยะ ซึ่งมันไม่ใช่ เราในฐานะองค์กรเอกชน ที่มีหน้าที่ในการปกป้องพระศาสนา และมีอำนาจหน้าที่ ตามหลักรัฐธรรมนูญ จึงต้องลงมาจัดการกับลัทธิดังกล่าว โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ เพราะหากปล่อยไป ก็จะเป็นเยี่ยงอย่าง ให้เกิดลัทธิในลักษณะนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆ

 

ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักได้แต่มอง ไม่สามารถทำอะไรได้อ้างว่า มีพ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก 2546 แต่กับกระพุทธศาสนา ซึ่งเป็น 1 ใน 3 สถาบันหลักของชาติ ถูกแอบอ้างจาบจ้วง บิดเบือนคำสอน กลับไม่สามารถทำอะไรได้ สิ่งที่เกิดขึ้นตนมองว่า พ่อแม่คือตัวการสำคัญที่ใช้ ลูกเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน เรี่ยไรเงินบริจาค อ้างว่านำมาใช้ ในกิจกรรมของลัทธิ มีการเรี่ยไรเงินบริจาคมาซื้อที่ดินของแม่เด็กเพื่อจัดทำเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การกล่าวอ้างลอยๆ แต่มีพยานหลักฐาน เยอะมากจากการเผยแพร่กิจกรรมของพวกคุณเองในสื่อโซเชียลฯ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ ติ๊กต๊อก หรือแม้แต่สื่อหลายๆสำนักก็ช่วยกันขุดคุ้ย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ สามารถใช้เป็นหลักฐาน ได้ โดยตนได้มีการยื่นคำขาดให้ลัทธิหยุดดำเนินกิจกรรมทุกอย่างภายในวันที่ 10 พ.ค. นี้ หากยังขืนดำเนินการต่อก็จะดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีแน่นอน และยืนยันว่าไม่ใช่การข่มขู่ ถ้าคิดว่าตนข่มขู่ก็ให้แจ้งความดำเนินคดีกับตนได้ทันที

 

นายอนันต์ชัย ยังกล่าวตอนท้ายว่า การที่เด็กและพ่อแม่ออกมาไลฟ์สด ต่อว่า ด่าทอ ตน นั้น ตนไม่ถือสา แต่กลับสงสารเด็ก ด้วยซ้ำสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นลักษณะพ่อแม่รังแกฉัน การที่พ่อแม่คิดว่า เด็กเป็นลูก จะทำอะไรก็ได้คุณคิดผิด การที่มอบหมายให้ทนายความ ไปร้องศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ควบคุมการนำเสนอข่าวกับสื่อ ข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีทั้งกับสื่อ ดำเนินคดีกับตนเอง หรือเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่ออกมาขุดคุ้ยและเปิดโปงลัทธิของคุณนั้น เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะจะต้องเชิญตัวพ่อแม่มาที่ศาล ภาระการพิสูจน์จะต้องตกไปอยู่ที่คุณ จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า คุณเป็นลูกพุทธเจ้าจริงหรือไม่ คุณเป็นพระอนาคามีจริงหรือไม่ คุณเป็นลูกบุญธรรมเจ้าแม่กวนอิมจริงหรือไม่ คุณเป็นพญานาคจุติมาจริงหรือไม่ อริยสัจ 4 สอนยังไง มรรคมีองค์ 8 สอนยังไง การเชื่อมจิตเป็นยังไง ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องยากต่อการพิสูจน์และ เชื่อว่า ลัทธิเชื่อมจิตไม่มีทางฟ้องร้องดำเนินคดีกับฝ่ายใดตามที่กล่าวอ้างได้แน่

 

 

 

ชมคลิปที่นี่

 

 

ชมคลิปที่นี่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ก.แรงงาน" เตรียมเปิดขึ้นทะเบียน "แรงงานต่างด้าว" รอบใหม่
เจาะ "MOU44" พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา "เกาะกูด" เป็นของใคร
"สมชัย" เผยเคยทำงานร่วม "กิตติรัตน์" ยอมรับเป็นคนเก่ง แต่เพราะเคยตามใจฝ่ายการเมืองทำประเทศชาติเสียหาย
ระทึก "รถทัวร์กรุงเทพฯ-เชียงแสน" ชน "รถพ่วง" พลิกคว่ำตกข้างทาง ผู้โดยสารบาดเจ็บอื้อ
"ศิริกัญญา" ปูดข่าว รบ.วางแผนยึดการบินไทย ส่ง 2 ผู้บริหารฟื้นฟู
โมเดลใหม่...ประมงสมุทรสงครามเปิดตัวกิจกรรม “สิบหยิบหนึ่ง” ปราบปลาหมอคางดำ จับมือเกษตรกรร่วมแก้ปัญหาในบ่อเลี้ยงเกษตรกรและแหล่งน้ำธรรมชาติ
"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น