ยาห์ยา ซาเรีย โฆษกของกองทัพฮูตีแห่งเยเมน ออกแถลงการณ์ครั้งใหญ่ ผ่านทางโทรทัศน์ท่ามกลางมวลชนนับพัน อธิบายเกี่ยวกับระยะที่ 4 ของการเพิ่มระดับทางทหารของกลุ่มฮูตีว่า กองทัพเยเมนขอประกาศเริ่มต้นการดำเนินการในระยะที่ 4 ของการยกระดับความรุนแรง ด้วยการกำหนดเป้าหมายไปที่เรือทุกลำ ที่ละเมิดเกี่ยวกับการห้ามการขนส่งของอิสราเอล และมุ่งหน้าไปยังท่าเรือของปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เราจะโจมตีในทุกพื้นที่ใดๆ ที่เราเอื้อมถึง
ซาเรียกล่าวต่อไปว่า การดำเนินการตามมาตรการนี้ จะเริ่มต้นทันทีตั้งแต่ตอนนี้ หากศัตรูอย่างอิสราเอลตั้งใจที่จะเริ่มการโจมตีในเมืองราฟาห์ กองทัพเยเมนก็จะกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุม ต่อเรือทุกลำและบริษัททุกแห่งที่จัดหาและเข้ามายังท่าเรือปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง โดยจะไม่คำนึงถึงสัญชาติใดๆทั้งสิ้น และจะป้องกันไม่ให้เรือทุกลำที่เป็นของบริษัทเหล่านี้ ผ่านพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพ โดยไม่คำนึงถึงจุดหมายปลายทางใดๆ ไม่ว่าจะเป็นทะเลแดง ทะเลอาหรับ และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กองทัพเยเมนจะไม่ลังเลใจที่จะเตรียมพร้อมสำหรับระดับความรุนแรงที่กว้างขึ้น และแข็งแกร่งขึ้น จนกว่าอิสราเอลจะหยุดสงคราม และยกเลิกการปิดล้อมฉนวนกาซา
กลุ่มฮูตีได้เปิดตัวโดรนและขีปนาวุธโจมตีเรือในช่องเดินเรือที่สำคัญของทะเลแดง ช่องแคบบับ อัล-มันดับ และอ่าวเอเดนตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน กับปฏิบัติการที่พวกเขาระบุว่า เป็นการแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์และต่อต้าน การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา ปฏิบัติการนี้ได้บังคับให้บริษัทขนส่ง เปลี่ยนเส้นทางการขนส่งสินค้าไปทางแอฟริกาตอนใต้ จนทำให้การเดินทางยาวนานขึ้น และมีราคาแพงกว่า สิ่งนี้กระตุ้นให้เกิดความกลัวว่า สงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาอาจแพร่กระจาย จนทำให้ภูมิภาคเกิดความไม่มั่นคง และขณะนี้ ทางกลุ่มฮูตีจึงได้ยกระดับทางทหารขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน ทางด้านของนายแอนโทนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ก็ได้ออกมากล่าวถึงโอกาสที่อิสราเอลจะโจมตีเมืองราฟาห์ว่า อิสราเอลยังไม่ได้นำเสนอแผนการปกป้องพลเรือน ในระหว่างการปฏิบัติการภาคพื้นดินตามที่สัญญาไว้เลย ซึ่งหากไม่มีแผนดังกล่าว สหรัฐก็ไม่สามารถสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารครั้งใหญ่ที่เข้าไปในเมืองราฟาห์ได้ เพราะความเสียหายที่จะเกิดขึ้นนั้น จะอยู่นอกเหนือสิ่งที่จะยอมรับได้อย่างแน่นอน
ด้านนายริก พิเพอร์คอร์น ตัวแทนองค์การอนามัยโลก สำหรับดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง ก็ได้ออกมากล่าวผ่านทางคลิปวิดิโอว่า ทางอนามัยโลกได้เตรียมแผนฉุกเฉินสำหรับการบุกรุกไว้แล้ว ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลสนามแห่งใหม่ด้วย อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่การป้องกันการเสียชีวิตและการเจ็บป่วยที่จะมีเพิ่มเติม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่คาดว่าจะเกิดจากการปฏิบัติการทางทหารนี้ อย่างแน่นอน ็็้็้
พิเพอร์คอร์นกล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมการนั้น ก็ได้แก่ การจัดวางเวชภัณฑ์ไว้ล่วงหน้าที่โรงพยาบาลทางตอนเหนือ ในกรณีที่โรงพยาบาล 3 แห่งของราฟาห์ใช้งานไม่ได้ อย่างที่เกิดขึ้นหลายครั้ง กับความขัดแย้งในขณะนี้ ที่มีมานานถึง 7 เดือน อันเนื่องมาจากการโจมตีและระเบิดของอิสราเอล แต่สิ่งที่ตนกังวลยิ่งกว่าสิ่งใดก็คือ การบุกรุกใดๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการไปปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ ที่อยู่ระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ เป็นเส้นทางหลักในการนำเข้าเวชภัณฑ์ ตอนนี้เรากำลังผลักดันในทุกอย่างไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ให้เส้นทางนี้ยังคงเปิดอยู่ต่อไป