กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์ระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95MS (ทู – 95 เอ็มเอส) จำนวน 2 ลำ ที่บรรทุกขีปนาวุธของการบินระยะไกล ในกองกำลังการบินและอวกาศรัสเซีย ได้ดำเนินการบินตามกำหนด บนน่านฟ้าเหนือน่านน้ำกลางของทะเลแบริ่ง ใกล้ชายฝั่งตะวันตกของอลาสก้า เที่ยวบินนี้กินเวลานานกว่า 11 ชั่วโมง ทั้งนี้ เครื่องบินข้างต้น มีลูกเรือของ Su-30SM (ซู – 30 เอสเอ็ม) ของกองกำลังการบินและอวกาศ ให้การสนับสนุนในเครื่องบินรบ
ต่อมาในการโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มเทเลแกรม ทางกระทรวงฯก็ระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลำของพวกเขา บินนอกชายฝั่งตะวันตกของอลาสก้าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95MS ทั้ง 2 ลำนั้น ได้เผชิญหน้าและบินเบียดกันไปกับเครื่องบินรบของสหรัฐ นอกจากนี้ในบางช่วง ก็มีเรือบรรทุกขีปนาวุธ พร้อมกับเครื่องบินรบของต่างประเทศ ติดตามเครื่องบินทั้ง 2 ลำด้วย ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่า เป็นประเทศรายใด ที่ส่งเครื่องบินรบของตน ไปสกัดกั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย แต่รายงานของสื่อต่างๆคาดการณ์ว่า อาจเป็นเครื่องบินรบของแคนาดา เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับอลาสก้า
อย่างไรก็ดี ทางกระทรวงฯ ก็ระบุย้ำว่า ลูกเรือของเครื่องบินพิสัยไกลของรัสเซีย ทำการบินเหนือน่านน้ำเป็นกลางของอาร์กติก แอตแลนติกตอนเหนือ ทะเลดำและทะเลบอลติก รวมถึงมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่เป็นประจำ ภารกิจนี้ไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศใดๆ และภารกิจดังกล่าวก็ดำเนินไปโดยปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การใช้น่านฟ้าระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดด้วย
ขณะเดียวกัน ศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ หรือ NORAD (นอราด) ก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีการตรวจพบและติดตามเครื่องบินกองทัพรัสเซีย 4 ลำ ปฏิบัติภารกิจในเขตจำเพาะการป้องกันทางอากาศอลาสก้า ทั้งนี้ เครื่องบินรัสเซียยังคงอยู่ในน่านฟ้าสากล แต่ก็ไม่ได้เข้าสู่น่านฟ้าอธิปไตยของอเมริกาหรือแคนาดาแต่อย่างใด นอกจากนี้ กิจกรรมของเครื่องบินรบรัสเซียในเขตอลาสก้านั้น ก็เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามด้วย
ทั้งนี้ เหตุการณ์บนน่านฟ้าล่าสุดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดในรัสเซีย กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ภายหลังการตัดสินใจของสหรัฐ ที่จะเริ่มการส่งมอบอาวุธจำนวนมากไปยังยูเครนอีกครั้ง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจช่วยเหลือสงครามมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
และสำหรับเครื่องบินทิ้งระเบิด ทู-95 นั้น ก็ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสามารถด้านคลังแสงนิวเคลียร์ของรัสเซีย โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคโซเวียต บินขึ้นสู่ท้องฟ้าครั้งแรกเมื่อประมาณ 70 ปีที่แล้ว ซึ่งในขณะนี้ เครื่องบินดังกล่าว ก็ยังถือว่าเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ ที่ขับเคลื่อนด้วยใบพัดเพียงลำเดียว ที่ยังคงออกปฏิบัติการอยู่ทั่วโลก