“อัษฎางค์” ย้อนชีวิต “โน้ส อุดม” โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า “พอเพียง” แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน

"อัษฎางค์" ย้อนชีวิต "โน้ส อุดม" โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า "พอเพียง" แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน

อัษฎางค์” ย้อนชีวิต “โน้ส อุดม” โอดเป็นศิลปินไส้แห้ง วันนี้ด้อยค่า “พอเพียง” แขวะคนรุ่นเก่า ใช้การบูลลี่หากิน

กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อนขึ้นมาทันที หลัง Netflix แพลตฟอร์มผู้ให้บริการภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังได้ฉายเดี่ยว “สเปเชียล ซูเปอร์ ซอฟต์พาวเวอร์” ของโน้ส อุดม แต้พานิช เพราะมีดราม่าตามมาในหลายประเด็นด้วยกัน โดยประเด็นแรก โน้ส อุดม ได้กล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจพอเพียงว่า สิ่งที่ตนไปอยู่กับธรรมชาติ อยากรู้สึกพอเพียง ตนสารภาพตรงนี้เลย ตนเป็นคนไม่รู้จักพอ ตนอยู่ไม่ได้จริงๆ คือจริตตนไม่ใช่ ตนทำเป็นอยากพอเพียง อยากปลูกผัก อยากให้คนเห็น เราไม่ได้เป็นจริงๆ เราแค่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเป็น และเราอยากจะเป็นแค่นั้น มันไม่ง่ายเลย แล้วเราก็ไปเห่อตามดาราอินฟูลเอนเซอร์ที่ไปอยู่ เห็นเขาเกี่ยวข้าว แต่เขาลงมาจากรถตู้ คนที่ปลูกจริงๆชาวไรนาชาวนาทั้งนั้น อย่าดัดจริต ตอนเด็กๆตนจนมาพอแล้ว ไม่ต้องดัดจริตทำเป็นจน อยากมีแอร์เย็นๆ ไม่มีแมลงวี่มาตอมตา ตนคือผู้บริโภค

โน้ส อุดม

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุด นายอัษฎางค์ ยมนาค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค” ระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า “ถอกโชว์” เมื่อจมูกโตกว่าสมอง โชว์อะไรถอกๆ นี้ เป็นเทปบันทึกวีดีโอที่ออกแสดงเมื่อสัก 40 กว่าปีก่อนหรือเปล่า เพราะสำนวนที่ว่า ”ศิลปินไส้แห้ง-เต้นกินรำกิน“ มันคือทัศนคติของคนยุคเมื่อมากกว่า 40/50 ปีที่แล้ว

โน้ส พูดว่า “บอกวาดการ์ตูนโตไปจะทำอะไร ศิลปินไส้แห้ง ไส้แห้งอะไรมึง Crybaby มึงรู้จักป่าว 2 วันแรกซัดไป 100 กว่าล้าน”

Crybaby คืออะไร คือใคร

Crybaby เป็นอาร์ตทอยฝีมือคนไทย ที่ชื่อ มด-นิสา ศรีคำดี ที่ดังระดับภูมิภาคเอเชีย

The Cloud เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Crybaby เอาไว้ว่า

อาชีพที่เธอทำเมื่อเรียนจบคือนักออกแบบอีเวนต์ ปาร์ตี้ งานแต่งงาน ควบด้วยกราฟิกดีไซเนอร์ “ซึ่งเธอก็ประสบกับความลำบากสาหัสสากรรจ์เมื่อรัชกาลที่ 9 สวรรคต” !!! แล้วทุกงานรื่นเริงถูกยกเลิก !!! “เห็นทัศนคติอะไรจากประโยคข้างต้นมั้ย ชีวิตพังเพราะ รัชกาลที่ 9 สวรรคต โน้ส ด้อยค่าเรื่องพอเพียง ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วยกย่อง Crybaby ที่มีจุดกำหนดจากชีวิตที่พังเพราะรัชกาลที่ 9 สวรรคต เนื่องจากมีอาชีพเป็นนักออกแบบงานอีเวนต์ แต่งานหด เพราะทั้งประเทศ หยุดงานรื่นเริง เนื่องจากความอาลัย และร่วมกันแสดงความอาลัย”

นิสา ศรีคำดี นักออกแบบอีเวนต์ ปาร์ตี้ ตกงานในช่วงที่ไม่มีงานอีเวนต์ ไม่มีงาน-ไม่มีเงิน-ดูเหมือนไม่มีอะไรดี แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่มีก็คือ ‘เวลา’ เธอได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น

“เช้าวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกว่า ทำไมเราไม่ทำคาแรกเตอร์ร้องไห้ขึ้นมาเป็นอาร์ตทอย ในเมื่อเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว” ศิลปินดังเล่าถึงเช้าวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล

มอลลี่ไม่ได้หยิบกระดาษขึ้นมาสเกตช์ภาพร้องไห้เหมือนตอนเป็นนักศึกษา คราวนี้เธอหยิบดินขึ้นมาปั้น ๆๆ ปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกพาไป สักพักหนึ่งก็เริ่มรู้สึกได้ถึงแพสชันที่ก่อตัวขึ้นมาจนหยุดมือไม่ได้ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงตี 2 ของทุกวัน

2 เดือนผ่านไปก็ออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เราเห็น และตอนนี้ Crybaby ก็จัดว่าดังมาก ชนิดที่ว่าถ้าเด็กหญิงมดผู้หลงใหลในน้ำตาคนนั้นรู้เข้าก็คงตกใจ

“มันเหมือนดีดนิ้วเลยค่ะ เหมือนเราตื่นขึ้นมาก็ บู้ม! ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง”

 

 

เรื่องราวนี้บอกอะไรกับเรา

โน้สรู้จักคำว่า “วิกฤตคือโอกาส” หรือไม่

ถ้าไม่มีวันนั้น นิสา ศรีคำดี ยังอาจเป็นนักออกแบบอีเวนต์โนเนม ไส้แห้งบ้าง ไม่แห้งบ้างต่อไป แต่เพราะวิกฤตจึงเป็นโอกาสในน้องมดค้นพบตัวตนและความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง

ซึ่งจะมีคนแบบนี้สักกี่คนในสังคม คนที่ค้นพบตัวตนและความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง โน้ส อุดม ก็เป็นหนึ่งในนั้น

โน้สพูดว่า “บอกวาดการ์ตูนโตไปจะทำอะไร ศิลปินไส้แห้ง ไส้แห้งอะไรมึง Crybaby มึงรู้จักป่าว 2 วันแรกซัดไป 100 กว่าล้าน”

คำว่า “ไส้แห้งอะไรมึง“ ฟังดูเหมือนศิลปินทุกคนในยุคปัจจุบันหรือยุคของโน้สไม่ไส้แห้งแล้ว แต่ความจริงแล้วมึงก็คือคนหนึ่งที่ไส้แห้งไม่ใช่หรือ”

ย้อนกลับไปดูประวัติตัวเองที่เคยมีอาชีพเป็นศิลปินนักวาดรูปของโน้สหน่อยมั้ยว่าไส้แห้งหรือวาดรูปแล้วซัดไป 100 ล้าน

“โน้สเรียนจบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จากวิทยาลัยอาชีวศึกษาชลบุรี และได้หนีออกจากบ้านมาอยู่กับญาติที่เปิดร้านขายผลไม้ โน้สเคยเรียนศิลปะที่ วิทยาลัยเพาะช่าง แต่เรียนได้ถึง 2 ปีต้องออกจากการศึกษาเพราะไม่มีเงินเรียนต่อ โน้สเริ่มงานแรกโดยการเป็นนักเขียนการ์ตูนที่นิตยสารชัยพฤกษ์การ์ตูน ของไทยวัฒนาพานิช โดยใช้นามปากกาว่า ‘Note Namun’ (โน้ต หน้ามึน) ได้ค่าวาด 150 บาทต่อการ์ตูน 2 ช่อง

และเมื่อได้อ่านนิตยสาร ไปยาลใหญ่ ฉบับแรกบนแผงเขารู้สึกถูกใจในบุคลิกของหนังสือ และอยากร่วมงานด้วย จึงเข้าไปสมัครเป็นพนักงานฝ่ายศิลป์ของนิตยสารไปยาลใหญ่ ทำหน้าที่ออกแบบจัดทำภาพปกและภาพประกอบต่าง ๆ ในไปยาลใหญ่

ไม่เห็นพบประวัติ ซัดไป 100 ล้านจากการเป็นศิลปินนักวาดการตูนของโน้สเลยนะ มึงก็คือหนึ่งในนักวาดรูปส่วนใหญ่ที่ไส้แห้งเหมือนกันนี่หว่าไอ้โน้ส

เพราะนักวาดรูปที่ซัดไปร้อยล้านพันล้านนั้นมีอยู่จริง แต่มีไม่กี่คนหรอก ไม่ว่าจะรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ก็ตาม อย่าเหมาว่าคนรุ่นเก่าพูดผิดด้วยการยกคนที่ประสบความสำเร็จเพียงหยิบมือมาดูถูกความคิดหรือคำเตือนลูกหลานของพ่อแม่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เตือนลูกหลานด้วยความห่วงใย และด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ความเป็นห่วงเป็นใยของพ่อแม่ผู้หลักผู้ใหญ่นั้น เราซึ่งเป็นเด็ก สามารถพิสูจน์ตัวเองให้ท่านยอมรับได้ ด้วยการทำความฝันของเราให้เป็นจริง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ ถ้ามี passion ความหลงใหลในอาชีพการงานที่เราทำจริงๆ

เหมือน passion ที่ทำให้โน้สประสบความสำเร็จในชีวิตก็คือ งานแสดง ไม่ใช่นักวาดรูปอย่างที่เรียนมา ซึ่งโน้สอาจเคยโดนแม่ของตัวเองหรือผู้หลักผู้ใหญ่คนอื่นปรามาสมาว่า เรียนศิลปะจะกลายเป็นศิลปินไส้แห้ง ซึ่งเขาปรามาสไว้ถูกต้องเลย เพราะถ้าไม่ถูกต้อง ป่านนี้ โน้สคงเป็นนักวาดรูปที่วาดรูปแล้วซัดไป 100 ล้าน

โน้สพูดว่า “คนรุ่นเก่ามึงเงียบไปเลย เพราะอะไรที่มึงไปห้ามเขาไว้เขาเอาไปทำแล้วเจริญรุ่งเรืองหมดเลยบอกมึงอย่าไปเต้นกินรำกิน มึงดูลิซ่าดิ”

ไม่ต้องไปดูถึงเกาหลีหรอก ดูที่ตัวมึงนั่นแหละไอ้โน้ส มึงก็เต้นกินรำกินจนประสบความสำเร็จมากี่สิบปีแล้ว

ไอ้คำว่า “เต้นกินรำกิน” มันคือคำพูดของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่มึงเมื่อปีมะโว้นู้น ยุคมึงยุคกูนะ พวกเต้นกินรำกิน ตามคำพูดของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของพวกเรามันหมดไปก่อนเราจะโตแล้ว มึงก็เติบโตมาในยุคที่ คนเต้นกินรำกิน ร่ำรวยซัดไปร้อยล้านกันเป็นแถวแล้ว นี่มึงมีอาชีพเต้นกินรำกินจนประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างมาหลายสิบปี มึงจะไปขุดคติเก่าๆ ล้าสมัยมาทำสร้างวาทกรรมเพื่อหากินอยู่อีกเหรอ

ฟังแล้วคิดว่า เป็นเทปการแสดงสดเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว

โหนเด็กหาแดกไปวันๆ นะมึง

มาคิดดูอีกหรือที หรือคำพูดของโน้สที่ว่า “คนรุ่นเก่ามึงเงียบไปเลย เพราะอะไรที่มึงไปห้ามเขาไว้เขาเอาไปทำแล้วเจริญรุ่งเรืองหมดเลย” เป็นคำพูดที่แม่ของโน้สเคยด่า เคยปรามาสโน้สเอาไว้ แล้วโน้สยังเก็บความแค้นนี้ไว้ในใจ จนเอามาออกระบายบนเวทีการแสดงของตัวเอง

หรือจริงๆ ในใจพูดว่า “แม่…มึงเงียบไปเลย เพราะอะไรที่มึงไปห้ามเขาไว้เขาเอาไปทำแล้วเจริญรุ่งเรืองหมดเลย”

“ แม่… สิ่งที่มึงทำได้อย่างเดียว คือ มึงช่วยทำตัวน่ารัก ให้เด็กอย่างกู ยังไหว้อยู่ก็พอ“

หากินด้วยการบูลลี่คนอื่นอย่างสนุกปากมาตลอดชีวิตเลยนะมึง ถ้าโดนคนอื่นมาบูลลี่มึงมั้งแบบนี้บ้าง มึงจะหัวเราะออกบ้างมั้ย

(ต้องใช้ภาษาเดียวกับมึง ไม่งั้นพวกมึงอาจไม่เข้าใจ)

กูเอง เด็กที่เดินผ่านเพาะช่างประจำแต่ไม่ยักจะเคยเจอมึง

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 10 เตือน ปชช.ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน
ระทึก ! บุกยิงบ้านผู้ใหญ่ โบว์ คาดว่า การเมือง ท้องถิ่นเป็นเหตุ
‘บิ๊กต่าย’ เผยตร.ทำงานยังคงทำคดี ‘ดิไอคอน’ ตามที่ DSI ร้องขอ
ครูบาอริยชาติ เกจิภาคเหนือวัดแสงแก้วโพธิญาณ เชียงราย สร้างพระพุทธเมตตา จากหยกรัสเซียใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักกว่า 10 ตัน
นายกฯ-สามี พา "น้องธิธาร" ลูกสาว วิ่งเล่นสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น