กฎเหล็ก "กกต." สกัดพวกหัวหมอฮั้วเลือกกันเอง ส่อสะดุด สว.ใหม่แท้งคลอด
ข่าวที่น่าสนใจ
“กกต.” เตือนแรงคาดโทษหนักอย่าฮั้วเลือกกันเอง
แต่เส้นทางการไปสู่การเลือกสว.ชุดใหม่ไม่ราบรื่นอย่างที่คิด เนื่องจาก กฎเหล็กของ กกต.ที่ต้องการคัดกรอง สว.พ่นพิษสร้างความไม่พอใจในวงกว้าง เพราะมองว่า กฎเหล็ก กกต. วางกรอบการแนะนำตัวเข้มงวดเป็นการปิดปากผู้สมัคร ปิดปากสื่อมวลชน และ ปิดหูปิดตาประชาชน เป็นเหตุให้บรรดากลุ่มที่คัดค้าน อาทิ กลุ่มว่าที่ผู้สมัครสว. นำโดย “พนัส ทัศนียานนท์” อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยื่นเรื่องให้เพิกถอนกฎเหล็ก “กกต.” โดยไปยื่นเรื่องให้ศาลปกครองกลาง เบรกกฎเหล็กดังกล่าว ทำให้ศาลนัดไต่สวนในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ ต้องรอลุ้นคำตัดสินว่า หากศาลมีคำสั่งไปในทิศทางใด จะทำให้ กกต.ต้องคลอดระเบียบใหม่ที่ผ่อนคลายให้กับผู้สมัคร สว.สามารถหาเสียงหรือแนะนำตัวเองได้มากกว่าที่เป็นอยู่ จะทำให้กำหนดการเลือกสว.เลื่อนออกไปหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมี กลุ่มวีวอช ที่เคลื่อนไหวการเลือก สว.และแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับประกาศ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. และออกจดหมายเปิดผนึกล่ารายชื่อประชาชนให้ กกต.ทบทวนกฎเหล็กดังกล่าว รวมถึง เครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพ และความเป็นธรรม และผู้ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกสว.บางส่วน ออกมาคัดค้านและเรียกร้องให้ระงับการบังคับใช้ระเบียบการแนะนำตัว สว. ได้เรียกร้องให้ กกต .ระงับการบังคับใช้ระเบียบไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไขเพื่อรองรับหลักการเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม และมีส่วนร่วมของประชาชน
ขณะที่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ยังคงเดินสายรณรงค์ปลุกกระแสชวนประชาชนลงสมัคร สว. เดินเกมให้ได้ สว.สายส้มให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 70 คนจาก สว.ทั้งหมด 200 คน มีเป้าหมายเข้าไปแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 โดยอ้างว่า กลไกที่ฝังไว้ในรัฐธรรมนูญ คือ “ระบอบประยุทธ์” ทำให้รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ดังนั้นต้องมี สว.ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่มั่นคงเพื่อเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญได้ต้องได้รับความเห็นชอบจากสว. 1 ใน 3 หรือ 70 คน
ยิ่งได้ฟังคำพูดของ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. เตือนแรงว่า ผู้สมัครอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย แต่ถ้าหากพบการกระทำเข้าข่ายฮั้ว สามารถแจ้งเบาะแสกับ กกต.ได้ ซึ่งโทษจะมีทั้งทั้งจำและปรับและตัดสิทธิทางการเมือง โดยหากนำไปสู่คำพิพากษาว่ามีความผิดจริงก็จะมีเงินรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาทแก่ผู้แจ้งเบาะแส ดังนั้นขอเตือนว่า การสมัครมาเป็นผู้แทนประชาชนต้องมีจิตสำนึกและพยายามอย่าฝ่าฝืนกฎหมายไม่ว่าด้านใด ควรเป็นผู้สมัครที่ดี ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่ง กกต.จะพยายามตรวจสอบการฮั้วให้ดีที่สุด
หมอตำแย “กกต.” ไม่สามารถทำคลอด สว.ชุดใหม่ออกมาได้
แต่นักร้องที่น่าจับตาที่สุดเห็นจะเป็น “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ทนายความอิสระเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณาเสนอเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย กรณี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 40, 41 และ มาตรา 42 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา107 ที่บัญญัติว่า “มาตรการอื่นใดที่จำเป็นเพื่อให้การเลือกกันเองเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม” หรือไม่
ทั้งนี้ “ธีรยุทธ” มือปราบคดีล้มล้างการปกครองฯ เด็ดปีกพรรคก้าวไกลร่างทรงคณะก้าวหน้า กล่าวถึงเหตุผลที่ยื่นคำร้องเพื่อหวังเป็นกระบวนการป้องกันความเสียหายต่อประเทศ โดยเฉพาะงบประมาณที่ต้องสูญเสียไปเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อมีข้อบกพร่องหรืออาจเข้าข่ายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ การป้องกันเสียก่อนจะช่วยบ้านเมืองไว้ได้ และ ในการเลือกกันเองระดับอำเภอ จังหวัด และ ประเทศ ไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันผู้สมัครรับเลือก สว. มีการสมยอมกันในการเลือกกันเอง ต้องสันนิษฐานว่ามีการสมยอม และถือว่าการเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม มีผลให้บทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวตราขึ้นโดยขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 107
จึงหวาดหวั่นกันว่า คำร้องของ “ธีระยุทธ์” จะทำให้การเลือก สว.ถูกเลื่อนหรือถูกยื้อออกไปโดยไม่มีกำหนด ทำให้ กกต.ในฐานะหมอตำแยไม่สามารถทำคลอด สว.ชุดใหม่ออกมาได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
