“แอสตราเซเนกา” เริ่มถอนใบอนุญาตวัคซีนโควิดทั่วโลก หลังยอมรับก่อผลข้างเคียงลิ่มเลือด-เกล็ดเลือดต่ำ Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
แอสตราเซเนกา บริษัทยายักษ์ใหญ่สัญชาติอังกฤษ-สวีเดน แถลงเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมว่า ขณะนี้ มีวัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตขึ้นมาสำหรับไวรัสกลายพันธุ์หลายชนิด จนมีวัคซีนมากเกินความต้องการ ทำให้วัคซีนโควิด-19 ซึ่งพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้า มีความต้องการน้อยลง โดยทางบริษัทไม่ได้ผลิตหรือจัดหาวัคซีนตัวนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ แอสตราเซเนกา ได้ยื่นถอนใบอนุญาตทางการตลาดโดยสมัครใจในสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 5 มีนาคม และมีผลในวันที่ 7 พ.ค. 2567 ทำให้วัคซีนของบริษัทในชื่อ แว็กซ์เซฟเรีย (Vaxzevria) ไม่สามารถจำหน่าย และใช้ในสหภาพยุโรปได้ จากนี้ จะทยอยถอนใบอนุญาตในทุกประเทศ
แถลงการณ์บริษัท ระบุว่า จากการประเมินโดยองค์กรอิสระ วัคซีนแอสตราเซเนกา ได้ช่วยชีวิตของผู้คนกว่า 6 ล้าน 5 แสนคน เฉพาะปีแรกที่มีการนำมาใช้ และบริษัทได้จัดหาวัคซีนแก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกว่า 3 พันล้านโดส ความพยายามของบริษัทได้รับการยอมรับจากรัฐบาลทั่วโลก และถือว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญยิ่งในการยุติโรคระบาด
การประกาศถอนใบอนุญาตทางการตลาดทั่วโลก มีขึ้นหลังจาก เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แอสตราเซเนกายอมรับครั้งแรกว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ยาก รวมถึงภาวะลิ่มเลือด และเกล็ดเลือดต่ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น