อคส.เปิดประมูลข้าวโครงการรับจำนำล็อตสุดท้าย กลางพ.ค.นี้ คาดทำรายได้เกิน 270 ล้าน

อคส.เปิดประมูลข้าวโครงการรับจำนำล็อตสุดท้าย กลางพ.ค.นี้ คาดทำรายได้เกิน 270 ล้าน

อคส.เปิดประมูลข้าวโครงการรับจำนำล็อตสุดท้าย กลางพ.ค.นี้ คาดทำรายได้เกิน 270 ล้าน

นายกฤษณรักษ์ ใจดี นักบริหาร 9 รักษาการรองผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า หรือ อคส. ในฐานะรักษาการแทนผู้อำนวยการ อคส. เปิดเผยว่า อคส.อยู่ระหว่างการพิจารณาออกหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเปิดประมูลหรือ ทีโออาร์ ข้าวหอมมะลิ จากโครงการรับจำนำปี 56/57 ล็อตสุดท้าย 15,000 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จและออกประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้กลางเดือน พ.ค.นี้

เปิดประมูลข้าวโครงการรับจำนำ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากนั้น อคส.จะเปิดชี้แจงทีโออาร์ให้กับผู้สนใจเข้าร่วมได้รับทราบ เปิดโกดังให้ผู้สนใจไปตรวจสอบคุณภาพข้าว เปิดให้ยื่นซองคุณสมบัติและประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ เสร็จแล้วจึงจะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาพิจารณาและต่อรองราคา และประกาศรายชื่อผู้ชนะประมูลราวๆต้นเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 18 บาท หรือได้มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 270 ล้านบาท หลังจากนั้นจะนำเงินส่งคืนคลัง และปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้ทั้งหมด หลังจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ได้นำคณะลงพื้นที่โกดังเก็บข้าวที่ จ.สุรินทร์ 2 แห่ง เพื่อพิสูจน์คุณภาพของข้าวไปแล้ว

 

 

ที่ผ่านมา อคส.ได้เปิดประมูลข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 อย่างต่อเนื่อง แต่การประมูลล่าสุด เมื่อปี 63 ผู้ชนะประมูลไม่มารับมอบข้าว หรือไม่จ่ายเงินชำระค่าข้าว เพราะประมูลซื้อจาก อคส.ในราคาแพง แต่หลังจากนั้น ราคาตลาดลดลงมากจากการแพร่ระบาดของโควิด ผู้ซื้อจึงยอมทิ้งข้าว หรือยอมทำผิดสัญญา เป็นเหตุให้ อคส.ยึดหลักทรัพย์ค้ำประกัน และฟ้องร้องดำเนินคดี โดยหลังจากการประมูลครั้งสุดท้ายปี 63 อคส.ได้พยายามเปิดประมูลอีก 2-3 ครั้ง แต่ยังไม่สามารถเปิดประมูลได้

 

ส่วนกรณีที่จะพิสูจน์ว่าข้าวมีความปลอดภัยบริโภคได้หรือไม่นั้น อคส.มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพข้าวในช่วงก่อนฝากเก็บข้าวในโกดัง และตลอดระยะเวลาการฝากเก็บ แต่ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบความปลอดภัยของข้าว ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลมากกว่า แต่ก่อนการนำข้าวไปขายสู่ผู้บริโภค โดยทั่วไปผู้ชนะประมูลต้องปรับปรุงคุณภาพข้าวก่อนอยู่แล้ว แต่ทราบว่าผู้ส่งออก สนใจประมูลเพื่อส่งออก เพราะมีหลายประเทศที่นิยมบริโภคข้าวเก่า ข้าวสีเหลือง เช่น ประเทศในแถบแอฟริกา ตะวันออกกลาง ฯลฯ

 

ส่วนในเรื่องการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 51/52-56/57 ในความดูแลของ อคส.มีคดีอาญา 897 คดี ความเสียหาย 118,800 ล้านบาท และคดีปกครองอีก 246 คดี

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นฤมล-ธรรมนัส" ร่วมต้อนรับ "วีระพงษ์" นายกอบจ.มุกดาหาร สมัครสมาชิก พรรคกล้าธรรม มั่นใจอนาคตเลือกตั้งสนามใหญ่
"เสธหิ" พูดกระแทกใจ "อันที่สุดของไทยนั้นคือชาติ หากพินาศแล้วใครอยู่ได้หนอ"
สาวสุดช็อก จองตั๋วเครื่องบินไป จ.สกลนคร ราคาสูงทะลุ 1.4 หมื่นบาท
เกาหลีใต้จ่อเพิ่มการนำเข้าก๊าซ LNG จากสหรัฐ
สิงคโปร์ชี้สหรัฐทำลายระบบการค้าเสรีที่สร้างมากับมือ
เกาหลีใต้ประกาศเลือกตั้ง 3 มิถุนายน
อั้นไว้ก่อน ค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลด "เบนซิน-แก๊สโซฮอล์" ทุกชนิด ปรับราคาลง
“ปลัดฯแรงงาน” เผยจ่ายชดเชยลูกจ้างเสียชีวิต “ตึกสตง.ถล่ม” แล้ว กว่า 19 ล้าน พร้อมดูแลสิทธิผู้บาดเจ็บ ว่างงานเต็มที่
“กัน จอมพลัง” พา “คะน้า” ดาราสาว เข้าแจ้งความเอาผิด “ไฮโซเก๊” ตร.ไซเบอร์เตรียมออกหมายเรียกพรุ่งนี้
ทะเลเดือด "ฮูตี" ซัดขีปนาวุธ-โดรนถล่มเรือรบมะกัน 2 ลำโจมตีฐานทหารอิสราเอล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น